เมืองฉงจั่ว ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งน้ำตาลของจีน” เป็นแหล่งผลิตน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดของจีน กล่าวได้ว่า ทุกครัวเรือนล้วนมีสวนอ้อย ทุกอำเภอล้วนมีโรงงานน้ำตาล ปริมาณการผลิตน้ำตาลคิดเป็น 20% ขึ้นไปของทั้งประเทศ กล่าวอีกนัยหนึ่ง น้ำตาลทรายขาว 2.5 กิโลกรัมที่ชาวจีนบริโภค 500 กรัม ผลิตจากเมืองฉงจั่ว นับเป็นตัวเลขที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนท้องถิ่น แต่เนื่องจากอุปสงค์และอุปทานในตลาดมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อหลายปีก่อน ราคาน้ำตาลตกต่ำ ส่งผลให้ประชาชนที่ปลูกอ้อยเลี้ยงชีพ ได้รับความเดือดร้อนไปตามๆ กัน ธุรกิจผลิตน้ำตาลก็ตกอยู่ในสภาวะลำบากเช่นกัน จากภูมิหลังนี้ มณฑลกวางสี จึงกำหนดแผนผลักดันการยกระดับอุตสาหกรรมน้ำตาลมณฑลกวางสี จากนั้นการยกระดับของอุตสาหกรรมน้ำตาลเมืองฉงจั่วก็เริ่มต้นขึ้น

“เมืองฉงจั่วต้องเร่งผลักดันการยกระดับอุตสาหกรรมน้ำตาล แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการปรับเปลี่ยนรูปแบบและยกระดับอุตสาหกรรมน้ำตาล แล้วค่อยดูแลเรื่องปริมาณการผลิต ต้องทำให้ธุรกิจน้ำตาลมีความแข็งแกร่ง ความเชี่ยวชาญและเฉพาะด้าน ขยายห่วงโซ่อุตสาหกรรมผลิตน้ำตาล เพิ่มมูลค่าของสินค้า ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน” หลิว โหย่วหมิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองฉงจั่วกล่าว

นิคมอุตสาหกรรมน้ำตาลกวางสี-จีน ที่ตั้งอยู่ในเมืองฉงจั่ว เป็นฐานนำร่องสำคัญที่ขยายห่วงโซ่อุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลของเมืองฉงจั่ว ปัจจุบันได้ดึงดูดธุรกิจชั้นนำต่างๆ เช่น COFCO TUNHE และบริษัท East Asia Sugar (เครือน้ำตาลมิตรผล) โครงการผลิตน้ำตาลที่ลงทุนกว่า 2,748 ล้านหยวน เริ่มต้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2560 ในฐานะที่เป็นโครงการต้นแบบของนิคมอุตสาหกรรมน้ำตาลจีน การจัดตั้งโครงการดังกล่าว ไม่เพียงช่วยเติมแรงกระตุ้นให้แก่การยกระดับเมืองฉงจั่ว แต่ยังสร้างสีสันให้กับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ-การค้าระหว่างไทย-จีน “ธุรกิจความหวาน” ของเมืองฉงจั่ว นับว่ามีอนาคตสดใสและคุ้มค่าที่จะทำ