ความสำคัญของสุสาน “ฉินสือหวง” หรือ จิ๋นซีฮ่องเต้ นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นมรดกโลกที่คนทั่วโลกล้วนอยากไปชม
ล่าสุด กระทรวงวัฒนธรรมได้แถลงข่าวถึงการจัดนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “จิ๋นซี ฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา” ครั้งแรกในประเทศไทย โดยมี อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(รมว.วธ.) เป็นประธาน ร่วมด้วย พินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ , ฉาง ยู่ เหมิง อุปทูตฝ่ายวัฒนธรรม ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมแถลงข่าว
ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้นำทหารดินเผาแสดงแก่ชาวโลกมาแล้วไม่น้อยกว่า 25 ประเทศ ซึ่งครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่มีการจัดแสดงโบราณวัตถุจากสุสานจิ๋นซีในประเทศไทย โดยกรมศิลปากรได้มีการประสานขอยืมโบราณวัตถุจากสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี เพื่อมาจัดแสดงในประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2559 ด้วยความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายไทยโดยรัฐบาลและภาคเอกชน และหน่วยงานหลักในสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ สำนักงานมรดกทางวัฒนธรรมมณฑลส่านซี สำนักงานแลกเปลี่ยนวัตถุโบราณ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลส่านซี และพิพิธภัณฑ์สุสานจิ๋นซี
นิทรรศการ จิ๋นซีฮ่องเต้ ที่จัดขึ้นครั้งแรกในไทยนี้ จะเริ่มวันที่ 15 กันยายน –15 ธันวาคม 2562 รวมเป็นเวลา 3 เดือน
โดยโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยมที่นำมาจัดแสดงประกอบด้วย หุ่นทหารดินเผา 4 ตัว รถม้าจำลอง 1 ชุด และโบราณวัตถุอันเป็นสิ่งของเครื่องใช้มีค่าสำหรับจักรพรรดิในสุสาน รวมแล้วทั้งสิ้น 133 ชิ้น แบ่งเนื้อหาการจัดแสดงออกเป็น 4 หัวข้อที่น่าสนใจ คือ
1. พัฒนาการก่อนการรวมชาติ : ยุคราชวงศ์โจวตะวันออก
นำเสนอความเป็นแคว้นต่าง ๆ ที่มีการปกครองเป็นเอกเทศ แต่ก็ได้มีพัฒนาการ การสั่งสมทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรม อันเป็นปัจจัยส่งเสริมให้แคว้นฉินกลายเป็นจักรวรรดิที่แข็งแกร่งและสามารถผนวกแคว้นต่าง ๆ เข้าเป็นอาณาจักรเดียวกันในกาลต่อมา ซึ่งโบราณวัตถุที่นำมาจัดแสดง ก็ทำให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านโลหกรรมเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ภาชนะสำริด อาวุธและเงินตรา
2. จิ๋นซีฮ่องเต้: จักรพรรดิองค์แรกของจีน ผู้ผนวกโลกมนุษย์และสวรรค์
จัดแสดงความสำเร็จในการรวมรัฐทั้ง 7 ให้เป็นอาณาจักรหรือจักรวรรดิหนึ่งเดียว เป็นปึกแผ่นเดียวกัน พร้อมกับการปฏิรูประบบการปกครองแบบรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง พัฒนาเทคโนโลยีการสงคราม มีการกำหนดมาตรฐานหน่วยชั่ง ตวง วัด ระบบเงินตรา ภาษาเขียน และพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ รวมถึงทำการเชื่อมต่อแนวกำแพงดินอัดของแคว้นต่างๆ เพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึกศัตรูจนกลายเป็นกำแพงเมืองจีนที่มีความยิ่งใหญ่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
3. สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ มหาอาณาจักรใต้พิภพ
ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตเป็นอมตะ ทำให้จิ๋นซีฮ่องเต้ เสาะแสวงหายาอายุวัฒนะและสร้างสุสานเตรียมพร้อมสำหรับชีวิตหลังความตายหรือโลกหน้า เรื่องราวของจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้รับการบันทึกไว้โดย “ซือหม่าเฉียน” อาลักษณ์สมัยราชวงศ์ฮั่น ได้พรรณนารายละเอียดอันน่าทึ่งของมหาสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี และปริศนานี้ได้กระจ่างขึ้น เมื่อมีการค้นพบหุ่นทหารดินเผาครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2517 หรือ ค.ศ.1974 นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีครั้งสำคัญแห่งศตวรรษที่ 20 ซึ่งองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้ยกย่องและประกาศให้สุสานจักรพรรดิจิ๋นซีเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อปี 2530 โบราณวัตถุในส่วนจัดแสดงนี้ จะเป็นส่วนสำคัญของนิทรรศการ เช่น หุ่นดินเผาทหารแม่ทัพ แม่ทัพสวมชุดเกราะ พลธนูสวมชุดเกราะนั่งชันเข่า นักรบสวมชุดเกราะ และม้าประกอบรถม้า สมัยราชวงศ์ฉิน พุทธศักราช 322-337 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถขั้นสูงของช่างและเทคโนโลยีในสมัยนั้น
4. สืบสานความรุ่งโรจน์: ยุคราชวงศ์ฮั่น
แสดงถึงการต่อยอดความรู้มรดกภูมิปัญญาจากราชวงศ์ฉิน มาสู่ราชวงศ์ฮั่น ปรากฏผ่านความรุ่งเรืองทางด้านวัฒนธรรม การเมืองการปกครอง สังคม เกษตรกรรม และเทคโนโลยีทางการทหาร ตลอดจนด้านเศรษฐกิจการค้าและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างชาวจีนโบราณกับชาวต่างชาติอีกซีกโลกบนเส้นทางสายแพรไหมจนได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของงานศิลปกรรมและอารยธรรมจีนโบราณอย่างแท้จริง
นิทรรศการพิเศษ เรื่อง “จิ๋นซี ฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา” จะมีพิธีเปิดในวันที่ 15 ก.ย.นี้ และเปิดให้ประชาชนเข้าชมจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.62 ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (ปิดวันจันทร์ – อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ค่าเข้าชม คนไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท
สอบถามเพิ่มเติมโทร.02-224-1333 และ 02-224-1402