รัฐบาลมณฑลส่านซี ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมมณฑลส่านซี ณ โรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา  เพื่อแนะนำวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของมณฑลส่านซี พร้อมกระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น

            ภายในงานได้รับเกียรติจาก ฟาง กวง หวา รองผู้ว่าการมณฑลส่านซี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ฉาง ยวี่ เหมิง อุปทูตฝ่ายวัฒนธรรมของสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ,จาง ซินหง หัวหน้าคณะตัวแทนการท่องเที่ยวจีน, ฉันทันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.),วิชิต ประกอบกิจโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ร่วมด้วยตัวแทนจากแวดวงธุรกิจท่องเที่ยวไทย-จีน และสื่อมวลชนไทย-จีน 

            ฟาง กวง หวา รองผู้ว่าการมณฑลส่านซี กล่าวว่า กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมมณฑลส่านซีซึ่งจัดขึ้นครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามนโยบายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน และยังเป็นหนึ่งในนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เพื่อแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว

            มณฑลส่านซีเป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมจีน นอกจากนี้ ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมโบราณ สุสานจักรรพรรดิเหลือง สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ เจดีย์เหยียนอัน ภูผาฉินหลิ่ง เขาหวงซาน ฯลฯ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยาวนาน ทิวทัศน์ธรรมชาติและประเพณีพื้นบ้านที่มีสีสัน จนทำให้เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจีน

            วัฒนธรรมและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของส่านซีได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ในปี 2561 มณฑส่านซี มีนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวรวมกัน 630,253,200 คน โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางขาเข้าอยู่ที่ 4,371,400 คน เพิ่มขึ้น 13.92 %

            ทั้งนี้ มณฑลส่านซียินดีที่จะกระชับการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับประเทศไทย เพื่อร่วมกันส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของตลาดการท่องเที่ยวทั้งสองประเทศ  โดยในปี 2561 ไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวจากมณฑลส่านซีเดินทางมาท่องเที่ยว 317,000 คน

            ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเที่ยวมณฑลส่านซีมีประมาณ 60,000 คน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 26.28%

            รองผู้ว่าการมณฑลส่านซี ยังถือโอกาสนี้กล่าวเชิญชวนชาวไทยได้เดินทางเข้าร่วมงานการท่องเที่ยวนานาชาติซีอานเส้นทางสายไหมครั้งที่ 7 และวัฒนธรรมนานานชาติซีอานบนเส้นทางสายไหมครั้งที่ 7 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมี.ค. และก.ย.2563 ณ นครซีอาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และเป็นเวทีที่จะได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและธุรกิจการท่องเที่ยวระหว่างกันของทั้งสองประเทศ

            ฉาง ยวี่ เหมิง อุปทูตฝ่ายวัฒนธรรมของสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า ส่านซีเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของจีน หัวเซี่ยเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์จีน เป็นดินแดนที่รวมจีนเข้าเป็นปึกแผ่น ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม

            จะทำความรู้จักจีน ต้องเริ่มต้นที่มณฑลส่านซี และจะทำความรู้จักส่านซี ต้องทำความเข้าใจในวัฒนธรรมส่านซีก่อน

            ในปีนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีในการก่อสร้างสาธารณรัฐประชาชนจีน สำนักวัฒนธรรมและโบราณคดีส่านซีได้ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมไทยจัดงานนิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้จักรพรรดิ์องค์แรกของจีนและสุสานทหารดินเผาที่กรุงเทพฯ เพื่อดึงดูดความสนใจในการมาเที่ยวชมสถานที่จริงของนักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งล่าสุดมีผู้เข้าชมนิทรรศการดังกล่าวในประเทศไทยแล้วกว่า 140,000 คน

            ซีอานเมืองหลวงของมณฑลส่านซียังเป็น “เมืองหลวงทางวัฒนธรรมของเอเชียตะวันออก” ในปี 2562 ได้ใช้โอกาสนี้ในการแลกเปลี่ยนกับเมืองวัฒนธรรมของอาเซียน ความร่วมมือเหล่านี้ได้ช่วยผลักดันให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปยังมณฑลส่านซีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของประวัติศาสตร์เส้นทางสายไหม และทำความเข้าใจนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน

          วิชิต ประกอบกิจโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวว่า การจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยววัฒนธรรมส่านซีในครั้งนี้   หวังว่าจะช่วยเพิ่มพูนให้ความสัมพันธ์ระหว่างมณฑลส่านซีและประเทศไทยแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและการค้า  โดยในปี 2561  มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาประเทศไทยรวม 10.5 ล้านคน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากมณฑลส่านซี  3.17 แสนคน 

            สำหรับในปี 2562  คาดว่าจะมียอดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยมากถึง 11 ล้านคน  ในขณะเดียวกัน  นักท่องเที่ยวชาวไทยก็ชื่นชอบการเดินทางไปยังจีนมากขึ้น โดยเฉพาะในมณฑลส่านซี

             ในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวไทยประมาณ 60,000 คน ที่เดินทางไปที่เที่ยวมณฑลส่านซี  ซึ่งมั่นใจเป็นอย่างยิ่งหากไทยและจีนทั้ง 2 ฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือกัน จะส่งผลทำให้มีการขยายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวร่วมกันได้เป็น 5 แสนคนในปี 2563 ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวจีนจากมณฑลส่านซีมาไทย 4 แสนคน และนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเที่ยวส่านซีเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนคน  

             สำหรับกิจกรรมภายในงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมมณฑลส่านซี ประกอบไปด้วยการจัดนิทรรศการภาพถ่าย การโชว์ศิลปะการแสดง รวมถึงการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวในมณฑลส่านซีซึ่งที่ตั้งอยู่ใจกลางแผนที่ประเทศจีน เป็นมณฑลมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานกว่า 5,000 ปี เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของจีนมา14 ราชวงศ์   

           นอกจากนี้ ยังหลากหลายไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่งดงาม อาทิ  ภูเขาหวาซาน ,อุทยานแห่งชาติฉินหลิ่ง, น้ำตกหูโขว่ ฯลฯ เป็นจุดหมายปลายทางที่มีประสบการณ์การท่องเที่ยวให้สัมผัสในทุกรูปแบบ มีอาหารพื้นเมืองแสนอร่อยน่าลิ้มรส อาทิ บะหมี่เปี้ยงเปี้ยง ,แฮมเบอร์เกอร์หมูสับส่านซี  และยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ใน 4 ฤดู ฤดูใบไม้ผลิชมดอกไม้ ฤดูร้อนสดชื่น ฤดูใบไม้ร่วงเปลี่ยนสี ฤดูหนาวเล่นหิมะ-แช่น้ำแร่

——————————————————