จัดโซน “One Belt One Road”ครั้งแรก ในงานไชน่า-อาเซียนเอ็กซ์โปครั้งที่ 14

            งานไชน่า-อาเซียนเอ็กซ์โป ครั้งที่ 14 หรือหนานหนิงเอ็กซ์โป และการประชุมสุดยอดจีน-อาเซียนด้านธุรกิจและการลงทุน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน 2560 ณ นครหนานหนิง งานครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ร่วมสร้างเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 การท่องเที่ยวช่วยผลักดันการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค (Regional Economic Integration)” พร้อมกับเพิ่มโซนจัดแสดง “One Belt One Road” เป็นครั้งแรก

             ขณะเดียวกัน เพื่อกระชับความร่วมมือของประเทศในกรอบยุทธศาสตร์ “One Belt One Road” งานครั้งนี้ยังเชิญสาธารณรัฐคาซัคสถานเป็น “หุ้นส่วนพิเศษ (Special Partner)” นับเป็นประเทศแรกในแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมที่ได้รับเกียรติเป็นหุ้นส่วนพิเศษของงาน

            นอกจากนี้ ยังเชิญธุรกิจของประเทศในกรอบยุทธศาสตร์ “One Belt One Road” เข้าร่วมจัดแสดง  

            ยังคงจัดกิจกรรมด้านกำลังการผลิตระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (National Development and Reform Commission) กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น รวมทั้งเพิ่มโซนจัดแสดงอุปกรณ์และการผลิตอัจฉริยะเป็นครั้งแรก ทั้งอากาศยานไร้คนขับ (Drone) หุ่นยนต์อัจฉริยะ และการพิมพ์ 3 มิติ เป็นต้น เพื่อผลักดันการยกระดับอุตสาหกรรมในภูมิภาค


            ปีนี้ศูนย์การประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาตินครหนานหนิง จะเปิดใช้พื้นที่ฮอลล์ใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนต่อขยายที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ มีพื้นที่ 12,000 ตร.ม. ทำให้งานไชน่า-อาเซียนเอ็กซ์โปปีนี้ จะมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ารวม 1.22 แสนตร.ม. มีบูธแสดงสินค้ารวม 6,500 บูธ จากปีที่แล้วที่มี 5,800 บูธ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่สำหรับชาติสมาชิกอาเซียนและต่างประเทศ 33,000 ตร.ม. (เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3,000 ตร.ม.)

            ปัจจุบันการเตรียมงานเป็นไปอย่างราบรื่น ได้รับความสนใจจากธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ยอดจองบูธมากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ประเทศสมาชิกอาเซียน เช่น บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ไทย และเวียดนาม เป็นต้น ได้รับพื้นที่ในอาคารจัดแสดงย่อยทั้งอาคาร หรือที่เรียกว่า “เหมาฮอลล์” เช่นเคย

            สำหรับเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ (City of Charm) ได้มีการสรุปรายชื่อแล้ว ได้แก่ หนิงโป (จีน) บันดาเสรีเบกาวัน (บรูไน) จังหวัดพระวิหาร (กัมพูชา) แขวงไชยบุรี (ลาว) เมืองตองจี (เมียนมา) สิงคโปร์ กรุงเทพฯ (ไทย) และจังหวัดท้ายเงวียน (เวียดนาม)


            จากการแนะนำของคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (China Council for the Promotion of International Trade, CCPIT) ระหว่างการประชุมสุดยอดจีน-อาเซียนด้านธุรกิจและการลงทุน ครั้งที่ 14 จะเชิญผู้นำประเทศบรูไน ซึ่งเป็นประเทศเกียรติยศ (Country of Honor) และนักธุรกิจจีนเข้าร่วมเสวนา โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐ บุคคลในวงการอุตสาหกรรมและพาณิชย์ และตัวแทนขององค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศเข้าร่วมด้วย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ธุรกิจจีนเข้าใจนโยบายการค้า-การลงทุนของประเทศบรูไน รวมถึงผลักดันความร่วมมือด้านธุรกิจและการลงทุนของทั้งสองประเทศ  



            ปี 2559 เป็นปีครบรอบ 25 ปี ความสัมพันธ์คู่เจรจาจีน-อาเซียน ส่วนปี 2560 ถือเป็นปีที่ครบรอบ 50 ปี ของการก่อตั้งประชาคมอาเซียน ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าระหว่างจีน-อาเซียน ได้รับผลสัมฤทธิ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ปี 2559 มูลค่าการค้าตลอดทั้งปีระหว่างจีน-อาเซียนอยู่ที่ 4.522 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศจีนยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของอาเซียนต่อไป ส่วนอาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของจีน ทั้งยังเป็นตลาดส่งออกอันดับ 4 และตลาดนำเข้าอันดับ 2 ของจีน จนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2560 ธุรกิจจีนได้ลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในประเทศอาเซียน มูลค่า 2.9627 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างกำไรได้ 2.040 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ยอดการลงทุนระหว่างจีน-อาเซียนสูงกว่า 1.830 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ธุรกิจของทั้งสองฝ่าย ร่วมกันดำเนินโครงการความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงต่างๆ เช่น ทางหลวง ทางรถไฟ พลังไฟฟ้า สะพาน ท่าเรือ และการบิน เป็นต้น         

            กวางสี เป็นมณฑลเดียวของจีนที่พรมแดนติดต่อกับอาเซียนทั้งทางบกและทางทะเล เป็นสถานที่จัดงานถาวรของงานหนานหนิงเอ็กซ์โป ถือเป็นโอกาสทองสำหรับการส่งเสริมการพัฒนาแบบรอบด้านของกวางสี งานดังกล่าวจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมา 13 ครั้งแล้ว กลายเป็น “นามบัตร” ของกวางสี ที่ไม่เพียงช่วยกระชับการแลกเปลี่ยนระหว่างกวางสี-อาเซียนแบบรอบด้าน แต่ยังส่งผลให้เศรษฐกิจของกวางสีพัฒนาไปอย่างติดปีก ในช่วงดำเนิน “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะเวลา 5 ปี ฉบับที่12 (2554-2558)”  มูลค่าการค้าระหว่างกวางสี-อาเซียน เพิ่มขึ้นจาก 9.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2554 เป็น 2.901 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 ซึ่งเพิ่มขึ้น 34.7% โดยเฉลี่ยต่อปี จนอาเซียนกลายเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของกวางสี   


            ด้วยจุดแข็งของเวทีงานหนานหนิงเอ็กซ์โปที่โดดเด่น ทำให้อิทธิพลของกวางสีแผ่ขยายขึ้นเรื่อยๆ หลายปีมานี้ กวางสีได้ติดต่อการค้ากับ 194 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก สานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องทั้งสิ้น 97 คู่ มี 6 ประเทศสมาชิกอาเซียน จัดตั้งสถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง ธุรกิจ 500 อันดับแรกของโลกทยอยบุกตลาดในกวางสี งานหนานหนิงเอ็กซ์โป ค่อยๆ กลายเป็นช่องทางเข้าสู่อาเซียนของจีน ส่งเสริมการจัดสรรปัจจัยสำคัญต่างๆ ระหว่างจีน-อาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ทรัพยากร เทคโนโลยี และบุคลากรที่มีความสามารถ เป็นต้น

            นอกจากนี้ การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกวางสี-อาเซียนก็คืบหน้าไปได้ด้วยดี เช่นรูปแบบการพัฒนา “สองประเทศสองนิคม” ระหว่างจีน-มาเลเซีย ก็เริ่มเห็นผลบ้างแล้ว ขณะที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ กวางสีก็ประสบความสำเร็จในการสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจจีนให้ก้าวออกไปสู่สากล มีธุรกิจต่างๆ ประสบความสำเร็จตามนโยบาย  “ก้าวออกไป”  ของรัฐบาล เช่น Guangxi Construction Engineering Group และ Guangxi LiuGong Group เป็นต้น

///////////

Your email address will not be published. Required fields are marked *