อสังหาฯไทย ครองแชมป์อันดับ 4 จีนแห่ลงทุนทะลุ 7.2 หมื่นล้าน

การลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ในไทย ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนชาวจีนอย่างต่อเนื่อง แม้สถานการณ์การเลือกตั้งของไทยยังอยู่ภายใต้ความไม่แน่นอน

  • จากข้อมูลของ com เว็บไซต์การซื้อขายอสังหาฯ รายใหญ่ของจีน ระบุว่า ในปี 2561 ไทยเป็นประเทศที่ครองแชมป์ความนิยมสูงสุดจากนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพ ก้าวกระโดดจากอันดับที่ 6 ในปี 2559
  • ในปี 2561 ยอดการเข้ามาลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของนักลงทุนจีนในไทย มีมูลค่ากว่า 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 22 หมื่นล้านบาท สูงที่สุดเป็นอันดับ 4 รองจากอันดับ 1 สหรัฐอเมริกา ( มูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)  อันดับ 2 ฮ่องกง (มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และอันดับ 3 ออสเตรเลีย ( 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

             ‘แครี่ ลอว์’ ซีอีโอของ Juwai.com ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ว่า การเลือกตั้งครั้งใหญ่ในวันที่ 24 มีนาคมในประเทศไทย ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ของคนจีน 

             “ ลูกค้าชาวจีนส่วนใหญ่ที่เราทำงานด้วย ไม่ได้มีความกังวลกับผลการเลือกตั้งในประเทศไทยมากนัก” ผู้บริหารจูเว่ย ให้ความเห็น พร้อมระบุว่า ในช่วงหลังการรัฐประหารในประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2557 เศรษฐกิจไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้การรัฐประหารครั้งล่าสุดจะเป็นครั้งที่ 2 ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี แต่เปลี่ยนแปลงทางการเมืองไม่ได้มีผลในการชะลอการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ไทยแต่อย่างใด

            สอดคล้องกับมุมมองจาก บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทยที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนชาวจีน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของยอดขายจากผู้ซื้อชาวต่างประเทศของบริษัทฯ

            นันท์มนัส จิวัฒน์ธนากุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผู้ซื้อชาวต่างชาติไม่มีความกังวลต่อการเมืองไทย เพราะไทยยังคงมีเศรษฐกิจ ธุรกิจ และกฏเกณฑ์ต่างๆ ที่ดีแเข้มแข็งต่อเนื่อง แม้จะมีการผลัดเปลี่ยนรัฐบาลหลายครั้ง

            “ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2 เท่าในทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนต่างมองเห็นโอกาสในการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าความมั่งคั่ง มากไปกว่าผลตอบแทนทางการเงิน ปัจจัยที่ทำให้ผู้ซื้อหลายคนตัดสินใจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทย เพราะต้องการซื้อไว้สำหรับเป็นบ้านพักตากอากาศในช่วงวันหยุดหรือไว้สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยหลังเกษียณ เพื่อมาพักผ่อนและใช้ชีวิตในเมืองไทย

—————

อ้างอิง : CNBC

Your email address will not be published. Required fields are marked *