“เนเจอร์ เบสท์ ฟู้ดส์” สาหร่ายแซนด์วิชอบกรอบ ชูความต่าง แจ้งเกิดตลาดจีน

ครั้งแรกกับสแน็คสาหร่ายปรุงรสในรูปแบบแซนด์วิชจากไทยส่งตรงถึงตลาดจีน นวัตกรรมความอร่อยที่สร้างจุดขายแตกต่างให้กับ บริษัท เนเจอร์ เบสท์ ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่าย ภายใต้แบรนด์ “โกริโกะ”

“เราเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจผลิตสาหร่ายแปรรูปและปรุงรสรายแรกๆของเมืองไทย ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี เดิมบริษัทเน้นขายวัตถุดิบและรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก จนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มองเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดสแน็คสาหร่ายปรุงรส จึงเริ่มหันมาสร้างแบรนด์ เจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภค” สมชาย อัศวเศรณี ประธานกรรมการบริหาร ‘เนเจอร์ เบสท์ ฟู้ดส์’ เล่าถึงก้าวครั้งใหม่ทางธุรกิจ ซึ่งเลือกใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง โตนอกบ้านด้วยการเปิดตลาดในจีน และประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว เมียนมา และกัมพูชา

“ตลาดสาหร่ายทอดได้รับความนิยมในตลาดจีน แต่เราเลือกที่จะฉีกแนวมาขายสาหร่ายแบบอบที่ดีต่อสุขภาพ และพัฒนารูปแบบสินค้าให้มีความแปลกใหม่ ซึ่งผมคิดว่าคนไทยเราเก่งเรื่องนี้ ทั้งการคิดออกแบบดีไซน์รูปแบบและรสชาติ ในขณะที่สินค้าสาหร่ายจากญี่ปุ่นและเกาหลีส่วนใหญ่จะยังเป็นรูปแบบเดิมๆมีเพียงไม่กี่รสชาติ”

แม้ในตลาด B2C (Business-to-Customer) ‘เนเจอร์ เบสท์ ฟู้ดส์’ จะถือเป็นแบรนด์น้องใหม่ และไม่ใช่รายแรกที่เข้าสู่ตลาด แต่ด้วยกลยุทธ์สร้างความแตกต่าง และใช้นวัตกรรมเป็นจุดขาย จึงทำให้สามารถแจ้งเกิดในตลาดจีนได้ไม่ยาก

สมชาย เล่าว่า จุดเด่นของสาหร่ายโกริโกะ คือ รูปแบบและรสชาติที่ไม่เหมือนใคร เราพยายามฉีกแนวสินค้าให้ต่างออกไปจากตลาด หลากหลายทั้งรูปแบบ และรสชาติให้ลูกค้าเลือก ตอนนี้ รสชาติที่ขายดี คนจีนนิยมมาก คือ รสไข่เค็ม รสมะเขือเทศ รสปลาหมึก

นอกจากนี้ เรายังมีสาหร่ายอบกรอบรสทุเรียน ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าในตลาดกว่างโจวที่ชื่นชอบทุเรียน ถามว่าเราสามารถทำรสทุเรียนนี้ได้มั้ย ตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นที่ไม่ว่าลูกค้าสั่งอะไรมา เราสามารถทำให้ได้ตามที่ต้องการ

ล่าสุด ‘เนเจอร์ เบสท์ ฟู้ดส์’ ยังถือเป็นผู้นำเจ้าแรกและเจ้าเดียวในตลาดที่พัฒนานวัตกรรมสแน็คสาหร่ายอบกรอบในรูปแบบแซนด์วิช ซึ่งถือเป็นสินค้าพระเอกตัวใหม่ในตลาด

“ผมเป็นคนชอบกิน ชอบดู ชอบลอง อยากทำอะไรใหม่ๆ ที่ฉีกแนวกว่าคนอื่น เลยเกิดไอเดียลองเอาสาหร่ายมาประกบกับธัญพืชต่างๆ เช่น งา ถั่วอัลมอนด์ ฟักทอง ข้าวหอมมะลิ เลยเรียกว่าสาหร่ายแซนด์วิช ซึ่งตอนนี้ ถือว่าเราเป็นเจ้าเดียวในเมืองไทยที่ยังไม่มีคู่แข่ง”

เรียกได้ว่า เป็นกลยุทธ์สร้างจุดขายทั้งรูปแบบความแปลกใหม่ และดึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่นำวัตถุดิบอย่างข้าวไทยที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากต่างชาติ รวมถึงผลไม้ไทยอย่างทุเรียน และมะพร้าว ที่คนจีนให้ความนิยม มาผสมผสานสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสาหร่ายอบกรอบ พร้อมทั้งชูจุดขายกระบวนการผลิตสินค้าที่ใส่ใจสุขภาพ ไร้ไขมัน กินแล้วไม่อ้วน เพราะใช้กรรมวิธีอบ แทนการทอด

“ทุกปี เราพยายามพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่าง จากรูปแบบสาหร่ายแผ่น สาหร่ายม้วน มาจนถึงพัฒนาเป็นรูปแบบสาหร่ายแซนด์วิช นอกจากนี้ ยังเอาวัตถุดิบสาหร่ายมาใช้กับสินค้าอื่นๆที่แตกไลน์ออกมา เช่น ข้าวเกรียบโรยสาหร่าย สแน็คข้าวอบกรอบ ขนาดพอดีคำแบบขนมข้าวแต๋น ปรุงรสสาหร่ายและรสชาติต่างๆ

สำหรับตลาดจีน ตอนนี้ เราเริ่มเข้าไปเจาะตลาดแล้วในหลายเมือง ทั้งกว่างโจว เซี่ยงไฮ้ หนานหนิง มีทั้งการทำตลาดในแบรนด์โกริโกะของเราเอง รวมทั้งรูปแบบ OEM รับจ้างผลิตให้กับลูกค้าในจีนที่ต้องการใช้แบรนด์ของตัวเอง เช่น แบรนด์ Panda ที่เป็นลูกค้าของเรา ซึ่งตอนนี้วางตลาดขายดีอยู่ในกว่างโจว

ผมมองทิศทางในตลาดจีนว่ายังเติบโตไปได้อีกไกล ผมไม่ห่วงเลยว่าจะมีคู่แข่งเยอะ เพราะจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มีคนเป็นพันล้าน มีหลายมณฑล โดยลูกค้าในแต่ละมณฑลก็มีความต้องการที่แตกต่าง ชื่นชอบรสชาติที่ไม่เหมือนกัน แม้แต่ในอนาคตข้างหน้า อาจมีคนเลียนแบบทำสินค้าเหมือนเราก็ได้ แต่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆอย่างไม่หยุดนิ่ง จะทำให้เราทิ้งห่างจากคู่แข่ง” สมชาย บอกเช่นนั้น

Your email address will not be published. Required fields are marked *