อาหารไทยไม่ใช่แค่อร่อย แต่ยังเป็นอาหารที่มีนวัตกรรม อีกหนึ่งก้าวของการเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยการวิจัยภายใต้โครงการ Innovative House จนทำให้ตอนนี้ มีหลายๆสินค้าจากเอสเอ็มอีไทยพัฒนาไปไกลสู่ตลาดจีน
ในมุมมองของ พิมพ์ภิดา วิชญพิมพ์จุฬา ผู้ประสานงานสำนักงานประสานงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Innovative House สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จากการพาธุรกิจไทยไปทดสอบตลาดจีน 5 ปีติดต่อกัน ล่าสุด คือ งานแสดงสินค้า “SIAL China 2019”ที่นครเซี่ยงไฮ้ ผู้บริโภคจีนมีความตื่นตัวเปิดรับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่อิงความเป็นวัตถุดิบที่โดดเด่นจากไทย โดยเฉพาะผลไม้ไทยอย่างทุเรียน มะพร้าว มังคุด ที่คนจีนชื่นชอบ
ตัวอย่างเช่นซุปทุเรียนหม้อไฟ ORTA ของบริษัทพรทิพย์ (ภูเก็ต)จำกัด ที่เปิดประสบการณ์ใหม่ในการกินทุเรียน Ready to Eat ในแบบซุป อร่อยง่าย แค่ละลายน้ำ เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก ไอเดียเกิดจากเจ้าของที่เห็นกระแสการกินชาบูทุเรียนในจีน จึงเอาโจทย์จากพฤติกรรมผู้บริโภคมาถอด แล้วใส่นวัตกรรม ใส่เทคโนโลยีเข้าไปเพื่อคงความอร่อยและอายุการเก็บรักษา
“ การเลือกวัถตุดิบ หรือสินค้าที่แสดงอัตลักษณ์ไทยได้อย่างเด่นชัด ยังเป็นจุดขายที่ดีสำหรับตลาดจีน ตัวอย่างเช่นการเอาทุเรียนมาฟิวชั่นกับทองม้วน กลายเป็นสินค้ารูปแบบใหม่ ทองม้วนสอดไส้ช็อกโกแลตขาวผสมกลิ่นทุเรียน สแน็คปลาแผ่นอบกรอบรสต้มยำที่ใส่กลิ่นอายรสชาติอาหารไทย เครื่องดื่มน้ำมะม่วงพร้อมชงจากมะม่วงมหาชนก สายพันธุ์ไทยที่กลิ่นและรสเฉพาะตัว”
สำหรับเทรนด์ธุรกิจอาหารที่กำลังมาแรงและเป็นที่ต้องการของตลาดจีน ทีมงาน Innovative House บอกว่า มี 3 เทรนด์หลักๆที่น่าสนใจด้วยกัน ได้แก่ 1. เทรนด์อาหารสำหรับคนรักสุขภาพ ปราศจากสารสังเคราะห์ ผ่านกระบวนการแปรรูปน้อย แต่ยังคงรักษาคุณค่าและคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี
2. อาหารสำหรับคนรักการออกกำลังกาย เช่น อาหารเสริมโปรตีน เครื่องดื่ม Functional drinks ที่มีส่วนผสมน้ำผลไม้ต่างๆ และ 3. อาหารสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเฉพาะโรค เช่น เยลลี่สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเคี้ยวและกลืน อาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน จากการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มนี้มากขึ้น
——————–
