‘กวางตุ้ง’เป็นมณฑลที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของจีน และถูกวางบทบาทให้เป็นหน้าต่างสู่โลกของจีน การเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ หลี่ ซี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลกวางตุ้ง พร้อมด้วยทัพนักธุรกิจชั้นนำกว่า 200 คน ซึ่งนับเป็นคณะที่ใหญ่ที่สุดจากกวางตุ้ง ระหว่างวันที่ 8-11 มิถุนายนที่ผ่านมา จึงนับว่ามีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการจับมือเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างไทย-จีน
ในการเข้าพบหารือระหว่าง หลี่ ซี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลกวางตุ้ง กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำความมุ่งมั่นที่จะกระชับความร่วมมือเชิงลึกระหว่างไทยกับมณฑลกวางตุ้งในสาขาที่มีศักยภาพ อาทิ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว เศรษฐกิจดิจิทัล พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และวัฒนธรรม
นอกจากนี้ ยังเห็นพ้องร่วมกันที่จะสนับสนุนการเชื่อมโยงเชิงนโยบายและทางกายภาพระหว่างยุทธศาสตร์การพัฒนาเขตอ่าวกวางตุ้ง – ฮ่องกง – มาเก๊า หรือ “Greater Bay Area” ( GBA) กับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย เพื่อเชื่อมต่อจีนกับกลุ่มประเทศยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง (ACMECS) และอาเซียน


ขณะเดียวกัน ความร่วมมือระหว่าง GBA กับ EEC ยังมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนนโยบาย“ประเทศไทย 4.0” สอดคล้องกับนโยบายของจีนที่ต้องพัฒนาให้บริเวณ GBA เป็นเขตเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก โดยวางยุทธศาสตร์สร้างความเชื่อมโยงจีนตอนใต้กับอาเซียนในพื้นที่โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางอย่างเป็นระบบ
ในโอกาสการมาเยือนครั้งนี้ ทั้งสองประเทศยังได้มีการจัดงานสัมมนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าจีน(กวางตุ้ง) – ไทย ซึ่งคับคั่งไปด้วยนักธุรกิจไทยและจีนเข้าร่วมงานกว่า 800 คน อีกทั้งได้รับเกียรติจากนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของจีน อาทิ “ต่ง หมิงจู” ประธานผู้บริหารบริษัทกรี อิเลคทริค ร่วมด้วยผู้บริหาร iFLYTEX และ Vipshop บินมาร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์
นอกจากนี้ ยังมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจร่วมกับบริษัทจีน 60 บริษัท พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจลู่ทางขยายการลงทุนใน EEC โดย จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานหอการค้าไทย-จีน ระบุว่า คณะนักลงทุนจีนจากมณฑลกวางตุ้ง เตรียมแผนลงทุนไว้แล้วในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท แต่ส่วนใหญ่ยังคงรอความชัดเจนในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลชุดใหญ่
ด้าน หลี่ ซี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลกวางตุ้ง ได้กล่าวในการปาฐกถาพิเศษว่า กวางตุ้งเป็นมณฑลที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของจีน ต่อเนื่องมาตลอด 30 ปี โดยปี 2561 มีมูลค่า GDP 9.73 ล้านล้านหยวน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 10 ล้านล้านหยวนในปีนี้ โดย ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง วางบทบาทให้กวางตุ้งเป็นหน้าต่างเปิดประเทศเชื่อมจีนกับทั่วโลก ภายใต้นโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ GBA เชื่อมโยงฮ่องกง มาเก๊า กับ 9 เมืองสำคัญในมณฑลกวางตุ้ง ที่มีขนาดพื้นที่รวมกัน 5.6 หมื่นตารางกิโลเมตรให้กลายเป็นเขตเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก
ในการมาเยือนโอกาสนี้ จึงขอเสนอแนวทาง 5 ข้อเพื่อขยายความสัมพันธ์ระหว่างกัน ได้แก่
- การสนับสนุนนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาพื้นที่ GBA เชื่อมโยงกับไทยแลนด์ 4.0 และ EEC ของไทย
- การขยายความร่วมมือการลงทุน โดยส่งเสริมบริษัทไทยและกวางตุ้งแลกเปลี่ยนการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น จากปัจจุบันไทยลงทุนในกวางตุ้ง 755 โครงการ และกวางตุ้งลงทุนในไทย 113 โครงการ
- ยกระดับการค้าระหว่างไทยกับกวางตุ้ง ซึ่งชาวจีนมีความนิยมในกลุ่มสินค้าเกษตร ประมง และเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทย โดยส่งเสริมให้มีการใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ชมากขึ้น
- การส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตรและประมง การใช้จ่ายในชนทบทส่งเสริมและผลักดันทางทะเลและชนบท เช่น การวิจัยพันธุ์ข้าวที่มีภูมิต้านทานโรค การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
- ขยายความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว จากปี 2561 ที่มีนักท่องเที่ยวกวางตุ้งมาเที่ยวไทยกว่า 1.5 ล้านคน
ด้าน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถา โดยเห็นพ้องกับข้อเสนอทั้ง 5 ข้อดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม สะท้อนถึงความจริงใจที่จะผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างกัน พร้อมย้ำว่าการเดินทางเยือนไทยของคณะนักธุรกิจมณฑลกวางตุ้งครั้งนี้ เหมาะสมกับสถานการณ์และจังหวะของประเทศไทย หลังเพิ่งผ่านพ้นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 6 ปี โดยจะมีการสานต่อนโยบายต่างให้เกิดความต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังเป็นจังหวะอันดีที่ไทยเป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน จึงเป็นโอกาสอันดีที่จีนตอนใต้กับอาเซียนจะใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยมีมณฑลกวางตุ้งซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นข้อต่อเชื่อมที่สำคัญ