นับเป็นความเคลื่อนไหวใหม่ที่น่าจับตาของวงการมวยไทยที่ตอนนี้กลายเป็นเทรนด์ออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เมื่อ “ซิน ชุน เวลเนส” กลุ่มธุรกิจ Wellness รายใหญ่จากจีน แถลงข่าวถึงแผนการเข้ามาลงทุนเปิดสถาบันการกีฬา ฟิตเนส และโรงเรียนสอนมวยไทย “ACE MUAY” มูลค่าการลงทุน 500 ล้านบาท ภายใต้ความร่วมมือกับ American Council On Exercise หรือ ACE ซึ่งเป็นองค์กรรับรองมาตรฐานวิชาชีพด้านการออกกำลังกายและโค้ชเพื่อสุขภาพระดับโลก
ความน่าสนใจของการเปิดโรงเรียน ACE MUAY (เอซีอีมวย) คือ การนำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬามาบวกกับศิลปะมวยไทย พัฒนาต่อยอดมาเป็น“หลักสูตรมวยไทยเพื่อการออกกำลังกายมาตรฐาน ACE” เพื่อผลิตบุคลากรมืออาชีพสู่สากล และพัฒนาคอร์สสอนมวยไทยเพื่อการออกกำลังกายที่คนทุกเพศทุกวัยเข้าถึงได้ ภายใต้การบริหารงานโดยบริษัท เอซีอี มวย แอนด์ มาร์เชียลอาร์ต จำกัด ซึ่งมีนักมวยหญิงอาชีพเจ้าของฉายา “สวยสังหาร” พีช – สุพัตรา เขมทองคำ เป็นกรรมการผู้จัดการ
12 ปีที่คลุกคลีอยู่ในวงการมวย พีช-สุพัตรา เคยผ่านประสบการณ์มาแล้ว ทั้งการเป็นนักมวยอาชีพ กรรมการ ครูฝึกมวยไทยระดับ A License โปรโมเตอร์จัดการแข่งขัน ฯลฯ ล่าสุด กับการก้าวมารับบทบาทผู้บริหารโรงเรียน’เอซีอีมวย’ของสาวเก่งคนนี้มาพร้อมกับความตั้งใจมุ่งมั่นที่อยากมีส่วนร่วมพัฒนาวงการมวยไทย และพัฒนาบุคลากรด้านการออกกำลังกายของไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล
“ มวยไทยเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์หลายด้าน นอกจากจะฟิตหุ่นได้จริง ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังเป็นการป้องกันตัวได้ด้วย ตัวพีชเองรวมถึงเพื่อนๆและทีมงานเราทำงานด้านนี้กันอยู่แล้ว จึงเล็งเห็นประโยชน์ตรงนี้ และอยากช่วยกันพัฒนาผลักดันมวยไทยทั้งในด้าน Sport Education และคอร์สการออกกำลังกายด้วยมวยไทยที่คนทุกเพศทุกวัยเข้าถึงได้” สุพัตรา เล่าถึงที่มาของการก่อตั้ง’เอซีอีมวย’ โดยจับมือร่วมกับ สตีเว่น จง ประธานกรรมการบริษัท ซินชุน เวลเนส จำกัด ซึ่งทำธุรกิจ Wellness ในจีนอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นพาร์ทเนอร์กับ ACE อเมริกา ซึ่งเป็นสถาบันให้การรับรองใบประกอบวิชาชีพเทรนเนอร์ด้านการออกกำลังกายซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลกและแวดวงฟิตเนส
ความร่วมมือครั้งนี้ จึงถือเป็นมิติใหม่ของการนำมวยไทยบรรจุเข้าในหลักสูตรของสถาบัน ACE เพื่อเป็นอีกทางเลือกของเทรนเนอร์ด้านการออกกำลังกาย หรือผู้ที่สนใจอยากสอนมวยไทย โดยเมื่อจบหลักสูตรแล้วสามารถนำใบ Certificate จาก ACE ไปประกอบอาชีพได้ทั่วโลก ช่วยให้คนในแถบเอเชียไม่จำเป็นต้องบินไกลไปเรียนถึงอเมริกา โดย สถาบันการกีฬา ฟิตเนส และโรงเรียน’เอซีอีมวย’ ถือเป็นสถาบันแห่งแรกที่เปิดสอนและให้ใบรับรองประกอบวิชาชีพมาตรฐาน ACE ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายในเป็นศูนย์กลางการผลิตบุคลากรด้านการออกกำลังกายและมวยไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ACE สู่ตลาดโลก โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียน
สุพัตรา บอกว่า หลักสูตร‘เอซีอีมวย’เป็นการเอาทักษะมวยไทย หมัด เท้า เข่า ศอก มาประยุกต์กับวิทยาศาสตร์การกีฬา และการออกกำลังกายที่มีรูปแบบชัดเจน ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ โดยหลักหัวใจสำคัญของ‘เอซีอีมวย’ คือ Safe Effective Interactive Scientific เป็นหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นมาโดยทีมงาน‘เอซีอีมวย’ที่เติบโตมาจากวงการมวยไทย มีทั้งครูมวย นักมวยที่มีประสบการณ์ และเป็นคนไทยทั้งหมด
“ ต้องบอกว่า ‘เอซีมวย’เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากประกอบอาชีพเทรนเนอร์สอนมวยไทย เราไม่ใช่ผู้ตั้งกฎเกณฑ์หรือข้อกำหนดอะไรใดๆเกี่ยวกับมวยไทย แต่เป็นหลักสูตร Sport Education ที่นำหลักของวิทยาศาสตร์การกีฬามาประยุกต์กับมวยไทย โดยเน้นที่การออกกำลังกาย การใช้อาวุธมวยไทยอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ” สุพัตรากล่าว
สถาบันการกีฬา ฟิตเนส และโรงเรียน’เอซีอีมวย’ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ ย่านรามคำแหง 60/5 แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย สถาบันสอนออกกำลังกายครบวงจร และโรงเรียนสอนมวยไทย คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จและเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2562
สำหรับหลักสูตร ACE MUAY Fitness Training Course จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับชั้น ได้แก่ Beginner เป็นการเรียนพื้นฐานทักษะการใช้อาวุธมวยไทย Intermedia เป็นเนื้อหาของการเรียนเพื่อเป็นเทรนเนอร์ และ Advance เน้นการสอนในเรื่องของการทำ Program Training ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งจากการทดลองฝึกสอนเบื้องต้น 2 รุ่น ได้รับเสียงตอบรับจากชาวต่างชาติทั้งชาวจีนและไต้หวันที่หลงรักมวยไทยสนใจศึกษาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่สนใจมากกว่าครึ่ง
“ ก่อนหน้านี้ เราเริ่มมีการส่งบุคลากรออกไปโรดโชว์โปรโมทที่ประเทศจีน โดยมีนักมวยหญิง‘ชมมณี ส.เต๊ะหิรัญ’เป็นหนึ่งในแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเรา ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากเทรนเนอร์ชาวจีนที่สนใจเข้ามาเรียน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอยู่ในวัย 20-30 ปี มีทั้งคนที่ชกมวยไม่เป็นเลย และคนสอนมวยอยู่แล้ว แต่อยากมาหาวิชาเพิ่มว่าจะสอนมวยไทยอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักและมีประสิทธิภาพ เพราะตอนนี้ คนจีนมีความต้องการอย่างมากที่จะเรียนรู้มวยไทย มีโรงเรียนและยิมมวยไทยในจีนขยายเพิ่มขึ้นทุกปี มีความต้องการเทรนเนอร์สอนมวยไทยปีละหลายพันคน จนผลิตบุคลากรไม่ทัน” สุพัตราเล่าถึงกระแสมวยไทยที่มาแรงในจีน
นอกเหนือจากกลุ่มผู้ที่มาเรียนเพื่อเป็นครูสอนออกกำลังกายด้วยมวยไทยแล้ว ‘เอซีอีมวย’ ยังมีคอร์สสำหรับคนทั่วไปที่ต้องการออกกำลังกายด้วยมวยไทย โดยเน้นในด้านของการทำ Program Trainingต่างๆที่อิงกับวิทยาศาสตร์การกีฬา การทำ Functional Training , TRX Training, Weight Training รวมถึงการดูแลด้านอาหารและโภชนาการสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักด้วยมวยไทย ซึ่งมีการวัดผลได้ชัดเจน
อีกทั้งยังมีหลักสูตรมวยไทยเพื่อการออกกำลังกายที่พัฒนาขึ้นมาเป็นโดยเฉพาะสำหรับเด็ก คุณแม่ตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุ สอนโดยบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
“ เป้าหมายของเรา คือ อยากให้คนหันมาออกกำลังกายมากขึ้น และทำให้คนทุกเพศทุกวัยเข้าถึงการออกกำลังกายด้วยมวยไทยเพื่อสุขภาพมากขึ้น” สุพัตรา กล่าว
นอกจากมวยไทยเพื่อการออกกำลังกาย ‘เอซีอี มวย’ ยังมุ่งส่งเสริมมวยไทยเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรม โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง แลกเปลี่ยนการดำเนินการจัดทำองค์ความรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของมวยไทยและนำศิลปะมวยไทยบูรณาการกับวัฒนธรรมท้องถิ่น อีกทั้งร่วมกันพัฒนาด้านวิชาการงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ขณะเดียวกันยังมีการลงนามข้อตกลงเป็นตัวแทนด้านการศึกษาในระดับสากลภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ระหว่าง‘เอซีอี มวย’ กับ IWF Shanghai Health Wellness Fitness Expo เพื่อร่วมกันเผยแพร่เอซีอีมวยไทยไปทั่วโลกด้วย
“ มวยไทยเป็นกีฬาการต่อสู้ที่มีความแข็งแกร่ง ดุดัน แต่แฝงไปด้วยความอ่อนช้อยและความสวยงามของการใช้อาวุธแม่ไม้มวยไทย และยังมีเรื่องราวประเพณีวัฒนธรรมไทยที่ลึกซึ้ง ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้มวยไทยมีเอกลักษณ์แตกต่างจากกีฬาต่อสู้ชนิดอื่นๆ
ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ทำงานอยู่ในวงการนี้ เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ‘เอซีอีมวย’จะเข้ามาส่วนในการร่วมเผยแพร่ศิลปะมวยไทย และต่อยอดมวยไทยสู่สากล สร้างอาชีพให้กับบุคลากรในวงการมวย และทำให้คนหันมาออกกำลังกายด้วยมวยไทยเพื่อสุขภาพมากขึ้น” ผู้บริหาร‘เอซีอีมวย’กล่าวด้วยความมุ่งมั่น
——————————————-