Tencent เปิดตัว WeTV ปลุกกระแสซีรี่ย์จีน ขยายฐาน Entertainment Platform

ปลุกกระแสซีรี่ย์จีนในไทย เมื่อ เทนเซ็นต์ ยักษ์ใหญ่อินเตอร์เน็ตจีน รุกเปิดตัวแพลตฟอร์มวีดีโอสตรีมมิ่ง WeTV ลุยตลาดนอกจีนครั้งแรกในไทยอย่างเป็นทางการ โดยมองไกลไปถึงการใช้ ‘เทนเซ็นต์ ประเทศไทย’ เป็น “ฮับ” ในการรุกขยายฐานแพลตฟอร์มความบันเทิง (Entertainment Platform) สู่ตลาดอาเซียน

ก้าวใหม่ของการเปิดตัว WeTV ยังเข้ามาช่วยเติมเต็ม Ecosystem ด้านความบันเทิงของเทนเซ็นต์ให้ครบครันยิ่งขึ้น โดยเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์เดิมที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ Sanook.com , JOOX บริการมิวสิคสตรีมมิ่ง และ PUBG MOBILE เกมออนไลน์ เรียกได้ว่าตอบทุกความต้องการ ทั้ง ‘อ่านข่าว-ดูหนัง-ฟังเพลง-เล่มเกม’

กฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด มองว่า “ ซีรีย์จีนเป็นที่รู้จักคุ้นเคยของคนไทยอยู่แล้ว เมื่อมีช่องทางที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น ก็ทำให้คนไทยหันมาสนใจกันมากขึ้น เห็นได้จากภายในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา WeTV ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วในกลุ่มเป้าหมายของเรา จากเวลาเฉลี่ยในการใช้งานต่อคนต่อวัน”

6 เดือนของการเริ่มทดลองเปิดให้บริการ พบว่าผู้ใช้งาน WeTV ใช้เวลาเฉลี่ย 84 นาทีต่อวันกับการชมวีดีโอออนไลน์ ซึ่งเป็นคนดูกลุ่มผู้หญิงมากถึง 85% ส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย 18-34 ปี คอนเทนต์ยอดนิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ ซีรี่ย์รักโรแมนติค คอมเมดี้ , ซีรี่ย์ดราม่าย้อนยุค และซีรี่ย์แนวแอคชั่น แฟนตาซี

ผู้บริหารเทนเซ็นต์ในไทย ระบุว่า การดูวีดีโอออนไลน์เป็นเทรนด์การเติบโตที่เกิดขึ้นทั่วโลก ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตกว่า 25% ของทั่วโลก ต่างเข้าถึงการใช้งานวีดีโอสตรีมมิ่ง ขณะที่คนไทยเองมีการใช้งานอินเตอร์เน็ตเฉลี่ย 9 ชั่วโมง 11 นาที โดยใช้เวลาราว 1 ใน 3 หรือ เฉลี่ย 3 ชั่วโมง 44 นาทีต่อวันกับการชมวีดีโอออนไลน์ ซึ่งถือว่าตลาดยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเทนเซ็นต์ตั้งเป้าไต่อันดับขึ้นเป็นแพลตฟอร์มวีดีโอสตรีมมิ่งที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด 3 อันดับแรกภายในปีนี้

การเดินเกมเพื่อปลุกกระแสความนิยมซีรี่ย์จีนในไทยของเทนเซ็นต์ มีทั้งการนำคอนเทนต์คุณภาพระดับโลกจาก‘เทนเซ็นต์ เพนกวิน พิคเจอร์ส’ ผู้ผลิตคอนเทนต์อันดับหนึ่งของประเทศจีน พร้อมทั้งดึงซูเปอร์สตาร์ระดับแม่เหล็กจากจีน หยางหยาง และ ตี๋ลี่เร่อปา บินลัดฟ้ามาร่วมเปิดตัวซีรี่ย์เรื่องใหม่ เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นจากแฟนๆชาวไทย

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อสร้างคอมมูนิตี้ในกลุ่มผู้ชม เช่น การจัดแฟนมีตติ้งให้แฟนๆชาวไทยได้พบปะกับดาราคนโปรดอย่างใกล้ชิด รวมถึงการพัฒนาฟีเจอร์บนแอปฯ WeTV ที่คนดูสามารถคอมเมนต์สดๆผ่านหน้าจอ ซึ่งนอกจากจะสร้างให้เกิดคอมมูนิตี้ในกลุ่มคนดูแล้ว ยังช่วยให้เทนเซ็นต์และแบรนด์สินค้าต่างๆสามารถเข้าถึงผู้ชมได้แบบอินเตอร์แอคทีฟ ผ่านแพลตฟอร์มของ WeTV ได้อีกด้วย

นอกจากคอนเทนต์จากฝั่งจีนแล้ว WeTV ยังจับมือกับพาร์ทเนอร์ในไทย ทั้งช่อง ONE31 ค่าย GDH และ Insight Entertainment เพื่อนำเสนอโลคอลคอนเทนต์ให้กับคนดู WeTVในฝั่งไทย โดยวางแผนร่วมกับพาร์ทเนอร์ในไทย ผลิตออริจินัลคอนเทนต์ให้ได้ชมกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟไตรมาสละ 2 เรื่อง และจะส่งออกไปบุกตลาดที่ฝั่งจีนด้วย ผ่านแพลตฟอร์ม TENCENT VIDEO ซึ่งครองความเป็นผู้นำทั้งในด้านแหล่งรวมคอนเทนต์บันเทิงไทยที่ใหญ่ที่สุด และแพลตฟอร์มวีดีโอสตรีมมิ่งอันดับหนึ่งในจีน ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 500 ล้านคนต่อเดือน

หนึ่งในคอนเทนต์ตัวชูโรง คือ การจับมือกับค่าย GDH ของไทย สานต่อความโด่งดังของภาพยนตร์ไทย “ฉลาดเกมส์โกง”ที่เคยโกยรายได้ในจีนกว่า 1,350 ล้านบาท โดยเตรียมเปิดกล้อง “ฉลาดเกมส์โกง เดอะซีรี่ย์” ในเดือนกรกฏาคมนี้ และมีกำหนดออนแอร์ทั้งในไทยและจีนในปี 2563

ทั้งนี้ ในงานเปิดตัว WeTV ในไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่อย่างเทนเซ็นต์ ได้ระดมซูเปอร์สตาร์ทั้งไทยและจีน เพื่อมาเปิดตัวซีรี่ย์ใหม่ลที่จะออนไลน์พร้อมกันทั้งในไทยและจีนอย่างคับคั่ง

ไม่ว่าจะเป็น หยางหยาง พระเอกสุดฮอตจากจีนกับซีรี่ย์ ‘เทพยุทธ์เซียนกลอรี’ (The King’s Avatar) , ตี๋รี่เรอปา กับการเปิดตัวซีรี่ย์‘สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย’ ภาคต่อจาก’สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่’ที่โด่งดังสุดๆในไทย

นอกจากนี้ ยังมี นิชคุณ หรเวชกุล หนุ่มไทยที่ไปโด่งดังในเกาหลีและตอนนี้กำลังมีผลงานในจีน มาร่วมเปิดตัวซีรี่ย์ ‘กล้าไหมมารักกัน’ (Shall We fall in love) โดยเขามองว่า เป็นโอกาสดีที่ไทยและจีนจะสื่อสารกันง่ายขึ้นผ่านละครซีรี่ย์ต่างๆ รวมทั้งยังเป็นโอกาสของวงการบันเทิงไทยในการบุกตลาดคอนเทนต์ที่มีผู้ชมหลายร้อยล้านคนในประเทศจีน

นอกจากซีรี่ย์จีนและไทยแล้ว WeTV ยังมีคอนเทนต์ที่น่าสนใจจากอเมริกาและซีรีส์เกาหลีที่ยกขบวนมาให้ได้ชมกัน โดยมีให้เลือกทั้งแบบ Freemium (ไม่มีค่าสมาชิก) และแบบ VIP (เสียค่าสมาชิก) เริ่มต้นค่าบริการที่ 59 บาทต่อเดือนซึ่งถือเป็นราคาที่ต่ำสุดในตลาด

น่าจับตาไม่น้อยว่า การเปิดตัว WeTV ธุรกิจล่าสุดของเทนเซ็นต์ในประเทศไทยครั้งนี้ จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ๆให้กับตลาดวีดีโอสตรีมมิ่ง รวมถึงปลุกกระแสซีรีย์จีนในไทยได้ขนาดไหน ท่ามกลางสมูรภูมิการแข่งขันที่มีเจ้าเก่าในตลาดทั้ง Netflix,LINE TV,YouTube ซึ่งถือเป็นโอกาสของผู้ชมคนไทยในการเลือกชมความบันเทิงที่หลากหลาย ขณะเดียวกัน ยังสร้างแรงกระเพื่อมใหม่ๆให้กับวงการบันเทิงไทยในการผลิตคอนเทนต์คุณภาพเพื่อบุกตลาดจีนในอนาคต

 

 

 

 

Your email address will not be published. Required fields are marked *