ความไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐที่ทุกคนปรารถนา ซึ่งเริ่มได้จากเรื่องใกล้ตัวอย่าง “อาหารการกิน”
TAP Magazine ฉบับนี้ ขอพาคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ “ตลาดอินทรีย์ อ.ต.ก.” ทางเลือกในการเข้าถึงผลผลิตเกษตรอินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพทั้งคนปลูกคนกิน ดีต่อโลกและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเริ่มเปิดตลาดเมื่อปี 2560 บนพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในตลาด อ.ต.ก. ย่านพหลโยธิน
ตลาดอินทรีย์ อ.ต.ก.ที่นี่ถือเป็นตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์แบบถาวรแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดซื้อขายทุกวัน ไม่มีวันหยุด ภายใต้การริเริ่มและผลักดันโดย กมลวิศว์ แก้วแฝก ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เพื่อมุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยและสินค้าเกษตรไทยให้ยั่งยืน โดยส่งเสริมการทำเกษตรในระบบอินทรีย์ที่ปลอดภัยต่อชีวิตเกษตรกรและผู้บริโภค ภายใต้นโยบายการตลาดนำการผลิตของรัฐบาล
ใครที่แวะเวียนมาที่นี่จะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของการเดินตลาดที่หาไม่ได้ในซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะเป็นตลาดที่เชื่อมให้กับคนปลูกกับคนกินได้มาพบกันโดยตรง ดังนั้น ใครที่อยากรู้ที่มาที่ไปว่ากระบวนการเกษตรอินทรีย์ทำกันอย่างไร? ต่างจากเกษตรเคมีตรงไหน?ทำไมราคาขายจึงแตกต่าง? สามารถสอบถามพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเกษตรกรที่มาขายเองได้โดยตรง ผู้บริโภคได้กินผักผลไม้อย่างรู้ที่มา อร่อยได้อย่างมั่นใจ เข้าถึงอาหารดีต่อสุขภาพในราคาสมเหตุสมผล
แหล่งรวมผลไม้ปลอดภัย สดจากสวนเกษตรกร
ตลาดอินทรีย์ อ.ต.ก. เป็นตลาดที่รวบรวมสินค้าเกษตรอินทรีย์ 100% และสินค้าเกษตรปลอดภัยจากพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ ใครที่ชื่นชอบผลไม้ อยากอร่อยแบบไม่ต้องกลัวสารพิษ แนะนำให้ลองมาเดินที่นี่ เพราะมีผลไม้สดหลากหลายชนิดจากสวนของเกษตรกร ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนผลผลิตไปตามฤดูกาลมาให้เลือกซื้อกันได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง ทุเรียน มังคุด ฝรั่ง ส้มโอ มะพร้าวน้ำหอม กล้วย เสาวรส รวมไปถึงพืชผักพื้นบ้าน ข้าวอินทรีย์หลากหลายสายพันธุ์ ไข่ไก่อารมณ์ดี กะปิเคยออร์แกนิก น้ำผึ้งอินทรีย์เดือนห้าสินค้าสด สินค้าแปรรูปอีกมากมาย
สำหรับใครที่ชื่นชอบทุเรียนเนื้อดีกินแล้วไม่ผิดหวัง แถมยังดีต่อสุขภาพ อยากแนะนำให้รู้จักกับทุเรียนสวนสุนทรออร์แกนิก อีกหนึ่งร้านขายดีที่เกษตรกรเจ้าของสวนจากชุมพร สุนทร ทิพย์ภักดี ขนทุเรียนคุณภาพจากสวนทุเรียนอินทรีย์แห่งแรกของเมืองไทยมาขายที่นี่ด้วยตัวเอง
กว่าจะได้ผลผลิตทุเรียนอินทรีย์ ปลอดสารพิษ 100% มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand ต้องผ่านการตรวจแล้วตรวจอีกว่าไม่มีการใช้สารเคมีสังเคราะห์ทุกชนิดในการผลิต ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า หรือฮอร์โมน รวมถึงปัจจัยการผลิตทั้งเรื่องดินและปุ๋ย โดยก่อนที่จะได้รับรองแปลงมาตรฐานอินทรีย์ ต้องผ่านการเว้นดินถึง 3 ปี เพื่อปรับปรุงดินให้เป็นดินอินทรีย์ ไม่มีสารเคมีตกค้าง
เจ้าของสวนอย่างสุนทรเล่าว่า ความยากของการปลูกทุเรียนอินทรีย์ คือความเสี่ยงปัจจัยสภาพอากาศ ทุเรียนจะออกดอกได้ อากาศต้องมีความแห้งแล้ง ถ้าฝนตกตลอด ทุเรียนจะออกแต่ใบ สวนทุเรียนส่วนใหญ่ทั่วไปจึงใช้วิธีพ่นสารเคมีเพื่อเร่งให้ทุเรียนออกดอก แต่สวนของเราจะปล่อยให้ออกดอกตามธรรมชาติ ดังนั้น ปีไหนที่ฝนตกหนัก ปีนั้นเราก็อาจจะไม่มีทุเรียนขาย
“การทำสวนทุเรียนอินทรีย์ ดูแลยากกว่าและมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า ไม่เหมือนทุเรียนเคมีที่ควบคุมได้ทุกอย่าง จากที่เคยได้ผลผลิต 3 หมื่นกิโลกรัม พอมาทำแปลงมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ผลผลิตเราได้อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นกิโลกรัม ตลอดฤดูกาลผลิตทั้งปี เราตั้งราคาจำหน่ายอยู่ที่ 350 บาทต่อกิโลกรัม ถ้าไปขายในท้องตลาดทั่วไป เราไม่สามารถแข่งขันได้เลย
“ปีนี้เป็นปีแรกที่เรามาขายที่ตลาด อ.ต.ก. กระแสตอบรับดีมาก ลูกค้าบางคนซื้อไปตอนเช้า ตอนเย็นกลับมาซื้อซ้ำ เขาบอกว่ากินแล้วรู้ทันทีว่าแตกต่าง ทุเรียนอินทรีย์ของเราจะหวานแบบธรรมชาติ ไม่หวานแหลมแบบทุเรียนเคมี กลิ่นไม่แรง กินแล้วไม่รู้สึกร้อน กระสับกระส่าย”
สำหรับทุเรียนสดจากสวนสุนทรออร์แกนิกจะมีจำหน่ายตามฤดูกาลตั้งแต่เดือนส.ค.ไปจนถึงต้นเดือน ต.ค. และอีกช่วงในรอบเก็บตกผลผลิตนอกฤดูกาลเดือนมี.ค.-เม.ย. ถึงแม้ช่วงนี้จะหมดฤดูทุเรียนไปแล้ว แต่ที่นี่ยังเปิดเป็นร้าน Ortorkor Organic Drink ที่มีเครื่องดื่มให้บริการทุกวัน ทั้งกาแฟสดอินทรีย์ กาแฟทุเรียนอินทรีย์ ทุเรียนอินทรีย์ปั่น รวมถึงทุเรียนฟรีซดราย ทุเรียนอัดเม็ด ทุเรียนแปรรูปที่มีจำหน่ายตลอดทั้งปี ใครสนใจแวะเวียนไปอุดหนุนกันได้


“ ตลาดอินทรีย์ อ.ต.ก. เป็นช่องทางที่ช่วยเปิดโอกาสให้เกษตรกรอย่างเราได้มาจำหน่ายโดยตรง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง และได้มีโอกาสสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง บอกเล่าถึงเรื่องราววิถีเกษตรอินทรีย์ที่เราทำ ซึ่งมีลูกค้าที่ให้กำลังใจพวกเราเยอะมาก” นารี เล่า
“ เราเน้นทำไร่แบบผสมผสาน ปลูกแบบวิถีพอเพียงตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ผลผลิตของเราจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามฤดูกาล มีทั้งพืชผักสวนครัว พืชผักเพื่อสุขภาพ สินค้าเด่นของเราจะเป็นหมามุ่ยอินเดีย ส่วนผลไม้ที่เด่นๆจะเป็นกล้วยหอม กล้วยน้ำว้าอินทรีย์ ซึ่งถ้าใครได้ลองชิม จะรู้ว่ารสชาติแตกต่างกัน เราพยายามให้ความรู้กับลูกค้าถึงความแตกต่างระหว่างเกษตรเคมีกับอินทรีย์ เคยมีลูกค้าเล่าว่าลองซื้อสินค้าร้านเราแล้วเอาไปตรวจที่ห้องแล็บ ไม่พบสารตกค้าง ทำให้มั่นใจกลับมาเป็นลูกค้าประจำ” อำไพ เล่าด้วยความภูมิใจ
ตลาดอินทรีย์ อ.ต.ก. ตั้งอยู่ในตลาด อ.ต.ก. ย่านพหลโยธิน (บริเวณข้างธนาคารกรุงไทย) โดยแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนตลาดอินทรีย์ 100% ภายในตลาดติดแอร์ ซึ่งทุกร้านจะมีใบรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ โซนตลาดเกษตรปลอดภัย ซึ่งได้มาตรฐาน GAP โดยแต่ละร้านจะมีใบรับรองติดไว้หน้าร้านให้ผู้บริโภคมั่นใจในการเลือกซื้อยิ่งขึ้น ใครอยากได้ผลผลิตเกษตรอินทรีย์มีคุณภาพแวะเวียนมาอุดหนุนกันได้ รับรองไม่ผิดหวัง ตลาดที่นี่เปิดให้บริการทุกวัน

