เมื่อวันที่ 28 ต.ค. สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน จัดงานสัมมนา “7 ทศวรรษจีนใหม่ ก้าวต่อไปที่โลกเฝ้ามอง” เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองบทเรียนการพัฒนาจีน เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ รัชดาฯ โดยได้รับเกียรติจาก จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน และกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การพัฒนาจีน แบบอย่างที่โลกเรียนรู้”
รองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์ กล่าวว่า เมื่อพูดถึงความเจริญก้าวหน้า 70 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทุกๆด้าน ในระดับที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์ โดยความมหัศจรรย์ที่ผมอยากจะพูดถึงในวันนี้คือความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจ ที่จีนได้แสดงให้ชาวโลกเห็น ในห้วง 70 ปีที่ผ่านมา พัฒนาการทางเศรษฐกิจที่มั่นคงของจีนส่งผลให้ชาวจีนมีรายได้เฉลี่ยสูงขึ้นราว 60 เท่า
โดยเมื่อ 70 ปีที่แล้ว รายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวจีนอยู่ที่เพียง 49.7 หยวน หรือราว 250 บาท ในขณะที่เมื่อปี 2561 มีจำนวน 28,200 หยวน หรือราว 1.41 แสนบาท
การเติบโตอย่างมั่นคงของรายได้ส่งผลให้อัตราการใช้จ่ายเติบโตขึ้นตามไปด้วย ซึ่งนั่นหมายถึงกำลังซื้ออันมหาศาล และความต้องการวัตถุดิบ ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน การค้า และการลงทุนอันมหาศาล ที่ช่วยสร้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก
และที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง คือการลดความยากจน ซึ่งตอนนี้ จีนมีคนจนประมาณต่ำกว่าร้อยละ 1 ของประชากรทั้งหมด
ในวันนี้ประเทศจีนคือขุมพลังทางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่าสินค้าอุตสาหกรรมทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ เหล็ก ปูนซีเมนต์ ถ่านหิน ยานยนต์ เรือ รถไฟความเร็วสูง หุ่นยนต์ สะพาน อุโมงค์ ถนน เครื่องจักร คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และที่สำคัญคือจีนมีสถิติการสมัครเพื่อจดทะเบียนสิทธิบัตรมากที่สุดในโลก ซึ่งมากกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 1.5 เท่า
ปัจจุบันนี้ จีนได้กลายเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ของโลก ทั้งด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การชำระเงินออนไลน์ Internet of things ปัญญาประดิษฐ์ และบล็อกเชน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้จีนจะยังคงรักษาบทบาทการเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกต่อไปในอนาคต
ประเด็นที่น่าสนใจติดตาม คือประเทศจีนทำอย่างไรในการเปลี่ยนแปลงประเทศ จากประเทศยากจนก้าวสู่ประเทศที่มีจีดีพีใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งพบว่ามีคำตอบ 6 ปัจจัยที่ทำให้จีนถึงก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจเอเชียและโลก ได้แก่
1.จีนให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพทางการเมือง
2.ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก
3.เน้นการปฏิรูปจากล่างสู่บน
4.ลงทุนมหาศาลด้านโครงสร้างพื้นฐานกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น
5.ภาครัฐและเอกชนของจีน มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด
6.จีนใช้กองทัพเอกชนบุกทำการค้าทั่วโลก นำเงินตรามหาศาลเข้าประเทศ
วันนี้ ถึงแม้เศรษฐกิจจีนจะไม่ได้เติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก เหมือนเมื่ออดีต แต่จีนก็สามารถปรับนโยบายได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการส่งเสริมการพึ่งพาเศรษฐกิจภายในประเทศ รับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพ ที่เน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หวังยุติความขัดแย้งสงครามการค้า ซึ่งล่าสุดจะมีการประชุมร่วมกันระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนและประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกาที่ประเทศชิลี ในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญกับตลาดจีนเป็นอย่างมาก เพราะจีนเองก็เป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2552 – 2561 มูลค่าการค้าระหว่างไทยและจีนขยายตัวสูงมาก ถึงร้อยละ 10.3 โดยเฉลี่ยต่อปี โดยจีนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทย ครองสัดส่วนการค้าร้อยละ 16 ของการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของไทย และไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 14 ของจีน ครองสัดส่วนการค้าราวร้อยละ 2.1
สำหรับการสัมมนา “7 ทศวรรษจีนใหม่ ก้าวต่อไปที่โลกเฝ้ามอง” ในครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก หลู่ย์ เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ จีนใหม่ในทศวรรษที่ 8 เป้าหมายและหนทางที่จะก้าวเดิน”
หลังจากนั้นเป็นการเสวนา “ถอดบทเรียน 70 ปีจีน ฝีมือหรือปาฏิหาริย์” โดย วิบูลย์ คูสกุล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน , ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ,ศาสตราจารย์ ฟู่ เจิ่งโหย่ว คณะภาษาต่างประเทศ ม.ปักกิ่ง และที่ปรึกษาอาวุโสสถาบันขงจื่อแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ,ดร.ธารากร วุฒิสถิรกูล รอง ผอ.ศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย-จีน สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
นอกจากนี้ช่วงบ่าย ยังมี เสวนา“ เปิดมุมมอง ปรับความคิด ความร่วมมือไทย-จีน” โดย ดร.จื้อกัง หลี่ ประธานกรรมการ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน), หล่วน จือเหวิน ที่ปรึกษากฎหมายมณฑลกวางสี , ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางสื่อมวลชนไทย-จีน และผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง
———————————————–