ส่องทิวทัศน์ ‘ยงเจียง’ วิถีแห่งสายน้ำ เคียงคู่เมืองหนานหนิง

แม่น้ำยงเจียง แม่น้ำหลักสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงผู้คนในนครหนานหนิงมาตั้งแต่ครั้งโบราณ จากรุ่นสู่รุ่น เป็นประจักษ์พยานในการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของหนานหนิงมาเป็นเวลายาวนาน

แม่น้ำยงเจียง กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

“กำแพงโบราณสมัยราชวงศ์ชิง” ที่ทอดตัวเป็นแนวยาว 112 เมตร ริมฝั่งแม่น้ำถูกขุดค้นพบขณะบูรณะสะพานยงเจียงต้าเฉียว เมื่อปี พ.ศ. 2547 แม้จะปรากฏร่องรอยการบูรณะปรับปรุงในช่วงตลอดร้อยปีที่ผ่านมา แต่ไม่อาจปิดกั้นเราจากประวัติศาสตร์การปกป้องหนานหนิงที่อยู่เคียงคู่กับแม่น้ำยงเจียงที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีต

นอกจากนี้ ยงเจียงยังเป็นเส้นทางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของหนานหนิง ด้วยทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม ต้นน้ำของแม่น้ำยงเจียง เริ่มจากจุดที่แม่น้ำจั่วเจียงและโย่วเจียงไหลมาบรรจบกัน หากล่องขึ้นไปทางทิศเหนือของแม่น้ำจั่วเจียงจะพบกับด่านการค้าระหว่างประเทศแห่งแรกในมณฑลกว่างซี “เขตหลงโจว” และหากขึ้นไปทางทิศเหนือของแม่น้ำโย่วเจียงจะพบกับ “เมืองไป่เซ่อ” ช่องทางเชื่อมต่อทางทะเลขนาดใหญ่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

หากล่องไปทางทิศล่างของแม่น้ำยงเจียงจะพบกับ “เมืองอู๋โจว” ประตูตะวันออกของกว่างซี เมืองสำคัญเชื่อมกว่างซีกับกวางตุ้ง และเนื่องด้วยทางน้ำที่เปิดโล่ง สายน้ำที่นิ่งสงบ ยงเจียงจึงนับเป็นเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าชั้นเยี่ยม ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีการก่อสร้างท่าเรือการค้าระหว่างประเทศบริเวณริมฝั่งยงเจียงด้วย วันเวลาล่วงเลยไป เรือขนส่งสินค้าแวะเวียนเข้ามาเทียบท่าอย่างไม่ขาดสาย คนงานขนถ่ายสินค้าที่ทำงานกันตัวเป็นเกลียวไม่ได้หยุดพัก ภาพความเจริญที่เป็นผลมาจากยงเจียงนี้ จึงทำให้หนานหนิงได้รับอีกฉายาหนึ่งว่า “หนานจิงน้อย” (Little Nanjing)

ล่องไปตามลำน้ำ ชมทิวทัศน์สองฝั่งธาร

ปัจจุบัน หากจะเอ่ยถึงแลนด์มาร์คที่สำคัญในนครหนานหนิง เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติจีน-อาเซียน สถานที่ที่ใช้จัดงานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (CAEXPO) มานานต่อเนื่องหลายปี บางคนอาจจะนึกถึงอาคารตี้หวัง อาคารสูงเสียดฟ้า ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ทั่วนครหนานหนิงได้ในมุมสูง แต่ความเป็นจริงแล้ว ในอดีตสถานที่เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เคยเป็นหุบเขารกร้างไร้ผู้คนมาก่อน

ก่อนหน้านี้ สถานที่ซึ่งครองตำแหน่งแลนด์มาร์คของนครหนานหนิงมาอย่างยาวนาน คือบริเวณย่านท่าเรือท่องเที่ยว หมินเซิง ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่รอยต่อระหว่างเขตซีเซียงถังและเขตซิงหนิง แม่น้ำยงเจียง ณ ปัจจุบัน มีสะพานใหญ่ 19 สะพานพาดผ่าน เส้นทางล่องเรือท่องเที่ยวจะแล่นผ่าน 5 สะพานสำคัญ ได้แก่ “สะพานยงเจียงต้าเฉียว” หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “สะพานยงเจียง 1” สะพานใหญ่แห่งแรกของหนานหนิง

สะพานต่อมาคือ “สะพานเถาหยวนเฉียว” ตั้งอยู่บริเวณปลายถนนจงซานลู่ ถนนสายสตรีทฟู้ดชื่อดังในหนานหนิง แหล่งรวมตัวของนักท่องเที่ยวและนักชิมทั้งหลาย

ถัดไปคือ “สะพานหลิงเถี่ยเฉียว” ซึ่งประกอบขึ้นจากวงพระจันทร์สองเสี้ยว ตามมาด้วย “สะพานไป๋ซาต้าเฉียว” สะพานเสาขึงสายเคเบิลสะพานแรกของยงเจียง และ “สะพานหูหลูติ่งต้าเฉียว” สะพานซึ่งได้ชื่อมาจากการที่รูปร่างของลำน้ำช่วงนั้นดูคล้ายกับผลน้ำเต้า (หูหลู) อย่างน่าอัศจรรย์

กลางคืน ที่นี่เหมาะกับการนั่งเรือชมวิวกลางน้ำ ส่วนกลางวัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมวิวริมฝั่ง ใกล้ๆกับท่าเรือหมินเซิงมี “หอช่างโหยวเก๋อ” หอชมวิวแห่งแรกริมแม่น้ำยงเจียง อาคาร 5 ชั้น ก่อสร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ด้านล่างของอาคารมีเสาขนาดใหญ่ 38 ต้น คอยค้ำยันให้อาคารตั้งโดดเด่นเป็นสง่าเคียงข้างกับสะพานยงเจียงต้าเฉียว เมื่อเดินขึ้นไปถึงชั้น 5 จะสามารถมองเห็น 5 สะพานสำคัญของแม่น้ำยงเจียงได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีการแสดง 3D Light Show บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของหนานหนิง ผ่านแสงสีและภาพในรูปแบบ 3D ที่เห็นชัดได้ด้วยตาเปล่าแห่งเดียวในมณฑลกว่างซี

เที่ยวย่านไลฟ์สไตล์ สองฟากฝั่งแม่น้ำยงเจียง

การพัฒนาของหนานหนิงมีจุดเริ่มต้นมาจากพื้นที่ริมฝั่ง ดังนั้นถนนย่านการค้าเก่าหลายสายจึงตั้งอยู่ติดกับฝั่งแม่น้ำยงเจียง แต่ต่อมาเนื่องจากการปรับปรุงพัฒนาเมือง ย่านเก่าเหล่านั้น ถ้าไม่อับเฉาลง ก็ไร้ซึ่งผู้คนคลาคล่ำเหมือนแต่ก่อน

ถนนสุ่ยเจีย เป็นถนนที่รวบรวมของอร่อยในหนานหนิงเอาไว้มากที่สุด ตั้งอยู่ข้างแม่น้ำยงเจียง ห่างจากท่าเรือหมินเซิงเพียงแค่หนึ่งช่วงถนนกั้น ช่วงก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 1990 เมื่อระดับน้ำในแม่น้ำยงเจียงขึ้นสูง ก็มักจะไหลเข้าท่วมถนนนี้อยู่เสมอ จึงเป็นที่มาของชื่อ “สุ่ยเจีย” (ถนนน้ำ) เมื่อเห็นว่ามีผู้คนผ่านไปมาแถวท่าเรือเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งจึงเห็นโอกาสสร้างรายได้ ทำของกินต่างๆออกมาขาย หลายปีต่อมา สุ่ยเจียจึงได้กลายเป็นแหล่งที่ชาวหนานหนิงผู้แสวงหารสชาติดั้งเดิมของยงเจียงต้องมาเยือน

หากจะให้เรียงลำดับความเก่าแก่ของเมนูที่นี่ หอยขม ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนาน 6,000 ปีชนะกินขาดไปอย่างไม่ต้องสงสัย บรรพบุรุษยุคโบราณมีวิธีการทานหอยขมอย่างไรเราไม่ทราบ แต่ที่นี่ในหนานหนิง “ผัดหอยขม” ถือเป็นเมนูขึ้นชื่อของร้านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแผงข้างทางไปจนถึงร้านอาหารเล็กๆ หน่อไม้ดองนำไปผัดรวมกับใบโหระพาและพริกชี้ฟ้า ส่งกลิ่นหอมเปรี้ยวเผ็ดร้อน เมื่อใส่หอยขมหลากหลายชนิดที่ตัดก้นทิ้งแล้ว ไปผัดรวมกันด้วยไฟแรง น้ำซอสก็จะซึมผ่านทางก้นหอยเข้าไปผสมผสานกับเนื้อหอยภายในจนทั่ว เมนูนี้ได้กินทีไรเป็นต้องเหงื่อท่วม ความชื้นภายในร่างกายราวกับถูกขับออกไปจนหมด ทำให้คุณรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย
นอกจากนี้ ยังมีเมนู “เหล่าโหยวเฟิ่น” ก๋วยเตี๋ยวอุ่นร้อนช่วยคลายหนาว “ซวนเหย่” ผลไม้ดองรสเปรี้ยวที่สาวๆต่างหลงใหล และ “ยวนยางหู” ขนมหวานเนื้อครีมข้น ทำจากถั่วลิสงและงาดำ ตักเสิร์ฟขาว-ดำสองฝั่งราวกับสัญลักษณ์หยินหยาง ล้วนแล้วแต่เป็นเมนูเด็ดของสุ่ยเจียที่ใครๆต่างก็ชื่นชอบ นอกจากอาหารการกินแล้ว เรื่องไลฟ์สไตล์ก็เป็นอีกสิ่งที่ชาวหนานหนิงให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ส่วนกลุ่มคนที่ชอบออกกำลังกาย มักจะไปรวมตัวกันที่ “จัตุรัสเฉาหยาง” ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสะพานยงเจียงต้าเฉียว จัตุรัสเฉาหยางในปัจจุบันแตกต่างจากในอดีตมาก สมัยก่อนที่นี่มีสนามกีฬา และมีการจัดกิจกรรมแข่งขันประเภทต่างๆเป็นประจำ

แม้วันเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ตราบใดที่สายน้ำยงเจียงยังคงอยู่คู่เมืองหนานหนิง ตราบนั้นชีวิตของผู้คนที่นี่จะยังคงขับเคลื่อนต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นี่คือมนต์เสน่ห์ของสายน้ำแห่งชีวิตที่น่าแวะเวียนมาสัมผัสดูสักครั้ง


 

Your email address will not be published. Required fields are marked *