หนานจิง หรือ นานกิง นครแห่งประวัติศาสตร์ 6 ราชวงศ์ เมืองแห่งหุบเขาและสายน้ำ ภูเขาจื่อจินซานและแม่น้ำฉินหวายอยู่คู่ตำนานเมืองหลวงเก่าแก่แห่งนี้มายาวนานกว่า 2,000 ปี ที่นี่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของนานกิง สูดความสดชื่นของต้นอู๋ถงฝรั่งเศส พร้อมดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาจื่อจินซาน


ภาพประทับใจแรกเมื่อมาถึงนานกิง คือถนนที่เต็มไปด้วยต้นอู๋ถงฝรั่งเศสเต็มสองฟาก ว่ากันว่าต้นอู๋ถงฝรั่งเศสเหล่านี้ เจียงไคเช็กเป็นผู้สั่งมาปลูกรวมกว่าสองหมื่นต้น ด้วยเพราะ ‘มาดามซ่งเหม่ยหลิง’ ผู้เป็นภรรยาชื่นชอบต้นไม้ชนิดนี้มาก จึงกลายเป็นที่มาของเรื่องราวสุดแสนโรแมนติกเบื้องหลัง ‘ต้นอู๋ถงฝรั่งเศส’ สัญลักษณ์คู่เมืองนานกิง
5 สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด เมื่อมาเยือนนานกิง
1. สุสาน ดร.ซุนยัดเซ็น สถานที่ฝังศพของ ดร.ซุนยัดเซ็น บิดาแห่งสาธารณรัฐจีน ตั้งอยู่บนภูเขาจื่อจินซาน ตัวสุสานสร้างขนานไปตามความสูงของแนวเขา ก่อนไปถึงโถงสักการะ จะพบกับซุ้มประตู “ป๋ออ้าย” (ภราดรภาพ) ประตูทางเข้าสุสานที่สลักคำว่า “เทียนเซี่ยเหวยกง” (ใต้หล้าเป็นของประชาชน) รวมไปถึงขั้นบันไดหิน สูงประมาณตึก 30 ชั้น จำนวน 392 ขั้น ภายในโถงสักการะมีรูปปั้นของ ดร.ซุนยัดเซ็นซึ่งทำมาจากหินอ่อนตั้งอยู่ หากต้องการเข้าไปในห้องเก็บศพจะต้องต่อคิวเพื่อรอเข้าไปด้านใน เมื่อเดินเข้าไป จะพบกับรูปปั้นขนาดเท่าตัวจริงของดร.ซุนยัดเซ็นตั้งอยู่บนโรงศพหิน โดยมีร่างไร้วิญญาณของดร.ซุนยัดเซ็นบรรจุอยู่ภายในโรงศพหินด้านล่าง


2. สุสานหลวงหมิงเซี่ยว ตั้งอยู่บนภูเขาจื่อจินซาน เขตเสวียนอู่ เมืองนานกิง เป็นสถานที่ฝังพระศพของจักรพรรดิจูหยวนจางและพระมเหสี สุสานหลวงหมิงเซี่ยวได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ยอดแห่งสุสานกษัตริย์ราชวงศ์หมิง’ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จด้านสถาปัตยกรรมและศิลปะแกะสลักหินในสมัยราชวงศ์หมิงตอนต้น มีบทบาทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์วิวัฒนาการสุสานกษัตริย์ของจีน ทั้งยังได้รับการขนานนามว่า ‘สุสานกษัตริย์แห่งแรกประจำราชวงศ์หมิงและชิง’




3. วัดขงจื้อ ตามประวัติศาสตร์จีน นานกิงเคยถูกตั้งเป็นเมืองหลวงถึง 11 ครั้ง ใน 6 ราชวงศ์ บริเวณวัดขงจื้อสมัยก่อนนับเป็นย่านที่ค่อนข้างเจริญและมีผู้คนพลุกพล่าน ทั้งตรอกอูอี ถนนจูเชวี่ย ท่าเรือเถาเย่ ล้วนแต่เป็นย่านที่พักอาศัยของชนชั้นสูง นอกจากนี้ ในสมัยราชวงศ์หมิง วัดขงจื้อยังเป็นสนามสอบเข้ารับราชการของกั๋วจื่อเจี้ยน สถานศึกษาระดับสูงสุดในสมัยนั้น มีบัณฑิตเดินทางมาเข้าร่วมสอบจากทั่วทุกสารทิศ จึงเกิดกิจการร้านรวงต่างๆขึ้นมากมาย ทั้งโรงเตี๊ยมและโรงน้ำชาตั้งเรียงรายอยู่ทั่วทุกหัวมุมถนน




4. หนิวโส่วซาน พุทธสถานชื่อดังของจีน ตั้งอยู่บนภูเขา ขึ้นชื่อด้วยภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง แฝงกลิ่นอายโบราณอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สถานที่สำคัญภายในหนิวโส่วซาน ประกอบด้วย วังพระพุทธเจ้าฝอติ่งกง พระศรีศากยมุนีปางไสยาสน์ และวิหารเชียนฝอเตี้ยน
• พระศรีศากยมุนีปางไสยาสน์ ประดิษฐานอยู่ภายในวังพระพุทธเจ้าฝอติ่งกง หล่อด้วยทองแดงทั้งองค์ ยาว 7.5 เมตร พื้นผิวภายนอกทำเลียนแบบหินหยกขาว ตัวแท่นหมุนได้ 360 องศาโดยรอบ สื่อให้เห็นถึงสภาวะความสงบสุขของการนิพพาน สามารถเข้าไปวางดอกไม้สักการะได้ที่ด้านใน
• วิหารเชียนฝอเตี้ยน สร้างอยู่ใต้ดินลึกลงไป 6 ชั้นจากวังพระพุทธเจ้าฝอติ่งกง ภายในมีพระโพธิสัตว์ประดิษฐานอยู่โดยรอบ รายล้อมเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งตั้งอยู่ใจกลางวิหาร บรรยากาศเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง รอบนอกของเชียนฝอเตี้ยนคือว่านฝอเตี้ยน ซึ่งวิจิตรตระการตาไม่แพ้กัน


5. วัดจีหมิง และกำแพงเมืองโบราณ หนึ่งในวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองนานกิง สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์จิ้นตะวันตก เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางพระพุทธศาสนาทางตอนใต้ของจีนในสมัยราชวงศ์ใต้ และได้รับการขนานนามว่า “ที่สุดของวัดสมัยราชวงศ์ใต้ 4,800 แห่ง” จากวัดสามารถเดินไปถึงกำแพงเมืองโบราณซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน จักรพรรดิจูหยวนจางทรงสั่งสร้างกำแพงเมืองแห่งนี้ โดยใช้คนงานกว่าล้านคน และใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 28 ปี (ค.ศ.1366-1393) เมื่อครั้งสร้างเสร็จยาว 35 กิโลเมตร ปัจจุบัน 600 ปีผ่านไป คงเหลืออยู่เพียง 25 กิโลเมตร หากขึ้นไปด้านบนจะพบกับปืนใหญ่ รถศึกยิงหน้าไม้ และอาวุธโบราณอื่นๆ ซึ่งจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิด และเมื่อมองจากตัวกำแพงไกลออกไป จะพบกับทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบเสวียนอู่กว้างไกลสุดสายตา
นานกิง เมืองหลวงแห่งตำนานที่ควรค่าแก่การมาเยือน ย้อนรำลึกความหลัง สัมผัสบรรยากาศเก่าๆ เดินเล่นริมฝั่งแม่น้ำฉินหวาย ดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพและความงามที่ไม่เหมือนใครของหนึ่งในมหานครเก่าแก่ของจีน