นับถอยหลังเตรียมพบกับความยิ่งใหญ่ของ‘คาร์นิวัลเมจิก’ธีมปาร์คสไตล์ไทยที่เดียวในโลกบนเกาะภูเก็ต ซึ่งมีกำหนดเปิดต้นปี 2563 สร้างปรากฎการณ์ใหม่ของอาณาจักรสวนสนุกเมืองไฟ แลนด์มาร์คการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเอเชีย

‘คาร์นิวัลเมจิก’เป็นธีมปาร์คแห่งที่ 3 ในเครือซาฟารีเวิลด์ และภูเก็ตแฟนตาซี ซึ่ง “ผิน คิ้วคชา” เจ้าพ่ออาณาจักรธีมพาร์คชื่อดังของเมืองไทย ตั้งใจสร้างที่นี่เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับแผ่นดิน และส่งมอบความสุขให้กับผู้มาเยือนจากทั่วโลก โดยใช้เวลาเตรียมการนับสิบปีเพื่อเนรมิตสวนสนุกยามค่ำคืนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยสร้างมา และเป็นแห่งแรกของโลกที่นำวัฒนธรรมงานรื่นเริงของไทยมาเป็นแนวคิดหลักในการสร้างสรรค์ธีมพาร์คขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ณ หาดกมลา ติดกับภูเก็ตแฟนตาซี มูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดิน ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี

คาร์นิวัลเมจิกนับเป็นโครงการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาของกลุ่มภูเก็ตแฟนตาซี นับตั้งแต่โปรเจคแรกเมื่อ 33 ปีก่อน ได้ลงทุน 1,300 ล้านบาท สร้าง“ซาฟารีเวิลด์”สวนสัตว์แห่งใหญ่ในกรุงเทพฯ

จากนั้นเมื่อ 22 ปีก่อน ได้ลงทุน 3,500 ล้านบาท สร้างภูเก็ตแฟนตาซี ธีมปาร์ควัฒนธรรมไทยแห่งแรกของโลก จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของจ.ภูเก็ต

“ ทุกโครงการที่เราทำ ยึดหลักเดียวกันคือ ต้องเป็นสิ่งใหม่ที่เราคิดขึ้นมาเอง และยังไม่เคยมีมาก่อน” ผิน นักสร้างแหล่งท่องเที่ยวแลนด์มาร์คระดับตำนานกล่าว โดยเล่าถึงโครงการคาร์นิวัลเมจิกที่ตั้งใจพัฒนาในรูปแบบสวนท่องเที่ยว ไม่ใช่โรงหนัง โรงละคร แต่เป็นธีมปาร์คเมืองไฟที่ใช้พื้นที่กว้าง 100 ไร่ นำวัฒนธรรมไทยมาประยุกต์กับการแสดง ไฮเทคโนโลยีที่ทันสมัย ประดับด้วยแสงไฟสีสันสวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนที่มีการแสดงขบวนพาเหรดในโรงละครที่ยิ่งใหญ่อลังการ

“ เป็นโครงการแรกที่คนไทยคิด คนไทยทำ 100% เราใช้พนักงานทั้งหมด 1,600 ชีวิตของภูเก็ตแฟนตาซี ร่วมมือร่วมใจกันสร้าง มั่นใจว่าจะเป็นโปรดักส์ใหม่แปลกแหวกแนวที่ยังไม่เคยมีในแหล่งท่องเที่ยวที่ไหนมาก่อน”ผิน กล่าว

• ไฮไลท์ 4 โซนหลัก สร้างสถิติใหม่วงการท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนคาร์นิวัลเมจิก จะได้เดินทางสู่ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองของธีมพาร์คคาร์นิวัลสไตล์ไทย ซึ่งแบ่งเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่

โซนที่ 1 Carnival Fun Fair ถนนชอปปิงสีสันสดใสสไตล์คาร์นิวัล ที่มีสินค้าจากทั่วภูมิภาคทั่วไทย และยังมีเครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์ ขับรถแข่ง นั่งรถไฟ และม้าหมุนที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ

โซนที่ 2 ภัตตาคาร Bird of Paradise ภัตตาคารบุฟเฟต์ 3,000 ที่นั่ง บริการอาหารกว่า 100 เมนู แบบตะวันตกและตะวันออก อาหารอินเดีย อาหารมังสวิรัติ และอาหารฮาลาล

นอกจากนี้ยังมีภัตตาคารหรู 3 ชั้น “River of Bliss Luxury Restaurant” ที่ได้แรงบันดาลใจจากเทศกาลลอยกระทง ไฮไลท์อยู่บริเวณทางเข้า ซึ่งลูกค้าจะต้องมาขึ้น “เรือแห่งความสุขสำราญ” (Barge of Happiness) ตรงกลางของ “น้ำตกแห่งความสุข” (Happiness Falls) ซึ่งเรือจะลอยขึ้นเหนือจากพื้น 7 เมตร เพื่อส่งลูกค้าเข้าสู่ภัตตาคาร

โซนที่ 3 โรงละคร River Palace โรงละครขนาดใหญ่ติดอันดับโลกพื้นที่กว่า 16,000 ตร.ม. หรือประมาณ 10 ไร่ ภายในมีการแสดง “River Carnival” พบกับความยิ่งใหญ่ของขบวนพาเหรด Indoor ทำลายสถิติโลก และพาเหรดที่ลอยได้ขนาดมหึมา พรั่งพร้อมด้วยระบบแสงเสียงเทคโนโลยีเอฟเฟกต์ต่างๆที่ทันสมัยน่าตื่นตาตื่นใจ อาทิ

• รถพาเหรด Indoor ที่ยาวที่สุดในโลก ความยาว 70 เมตร หรือขนาดเทียบเท่าเครื่องบินจัมโบ้ A380 ใช้ระบบขับเคลื่อนลอยตัวเหนือพื้นด้วยแรงดันอากาศ ไม่ใช้ล้อ

• ใช้จอ LED ในการแสดงใหญ่ที่สุดในไทย ยาว 70 เมตร กว้าง 22 เมตร

• การแสดงใหม่ๆที่น่าสนใจ เช่น บัลเล่ต์กลางอากาศ , ขบวนรถพาเหรดที่มีทั้งอยู่บนเวทีและลอยกลางเวหาได้ , หุ่นยนต์ Animatronics เคลื่อนไหวได้เสมือนจริง

โซนที่ 4 Kingdom of Lights เมืองไฟที่มีดวงไฟประดับประดากว่า 40 ล้านดวง มากที่สุดในโลก โดยมีไฮไลท์อยู่ที่โซน “River of Lights” ที่มีการนำดวงไฟหลายล้านดวงมาประดับบนโครงเหล็กดัดลวดลายสวยงาม ซึ่งเรียกว่า Luminarie(ลูมิแนรี่) ที่มีความยาวรวมกันถึง 50 กิโลเมตร มากกว่าความยาวเกาะภูเก็ต

• แลนด์มาร์คใหม่ ปลุกการท่องเที่ยวภูเก็ต

คาร์นิวัลเมจิก ใช้เวลาในการก่อสร้าง 3 ปี ปัจจุบัน ก่อสร้างไปแล้ว 80% คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 ซึ่งถือเป็นจังหวะดีที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของภูเก็ตให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

หลังจากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวภูเก็ตต้องเผชิญกับหลายปัจจัยบั่นทอน ทั้งการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ อุบัติเหตุเรือล่ม การลดลงของกรุ๊ปทัวร์ เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว สงครามการค้า รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่า จนนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป 30%

กิตติกร คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด (มหาชน) และบริษัท คาร์นิวัลเมจิก จำกัด ซึ่งเป็นทายาทของผิน บอกว่า ใน 20 ปีที่ผ่านมาของภูเก็ตแฟนตาซี เราผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย การจะทำให้การท่องเที่ยวภูเก็ตเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีแม่เหล็กตัวใหม่เพื่อดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก

ด้วยจุดเด่นและความพิเศษของ คาร์นิวัล เมจิก ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมายังภูเก็ตได้มากถึง 1-2 ล้านคนต่อปี และสร้างรายได้ปีละไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท โดยคาร์นิวัลเมจิก จะเน้นจับตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม High Spender ที่มีอำนาจการจับจ่ายสูง โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่มีเด็ก ขณะที่ภูเก็ตแฟนตาซี จะเน้นจับตลาดนักท่องเที่ยวตั้งแต่กลุ่ม Medium จนถึง High Spender

“ เราเป็นสวนสนุกยามค่ำคืนแห่งแรกของโลกที่ใช้ธีม“เมืองไฟ”เป็นจุดขาย โดยนำเอาแรงบันดาลใจจากมรดกวัฒนธรรม งานเทศกาล งานเฉลิมฉลอง ขบวนแห่ต่างๆของไทย อาทิ เทศกาลลอยกระทง , ตัวละครแฟนตาซีต่างๆในวรรณคดีไทย มาสร้างสรรค์บรรยากาศการเฉลิมฉลองและความสนุกสานมีชีวิตชีวาด้วยแสงไฟในทุกค่ำคืน ซึ่งมั่นใจว่านักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่มาชม จะได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่ยิ่งใหญ่และมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก” กิตติกร ทายาทรุ่นที่ 2 ผู้อยู่เบื้องหลังการบุกเบิกและสร้างสรรค์สวนสนุกเมืองไฟแห่งใหม่บนเกาะภูเก็ต บอกถึงก้าวใหม่ครั้งสำคัญของ“คาร์นิวัลเมจิก”ที่พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้มาพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ในต้นปีหน้า