‘ไทย-จีน’หารือแลกเปลี่ยนความร่วมมืออีคอมเมิร์ซ

ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา นับเป็นก้าวสำคัญของเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซจีน เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซไทยที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้ง 2 ประเทศ กระทรวงพาณิชย์จีนและกระทรวงพาณิชย์ไทยจะทำข้อตกลงความร่วมมือ MOU ในปี 2563 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเร่งอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของทั้ง 2 ประเทศได้มากกว่า 3 เท่า

ล่าสุด สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทยร่วมกับ Thailand e-Business Center (TeC) ให้การต้อนรับ เจี่ย ซูอิง รองอธิบดีกรมอีคอมเมิร์ซและสารนิเทศ กระทรวงพาณิชย์จีนพร้อมคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อประชุมหารือในเรื่องของสภาพตลาดอีคอมเมิร์ซไทย-จีน และด้านความร่วมมือไทย-จีนที่ผ่านมา และที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กล่าวว่า การพัฒนาตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยให้เติบโตอย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จ สามารถศึกษาวิธีคิดและบทเรียนจากประเทศจีนได้ เช่น การผลักดันทั้งส่วนรัฐบาลใหญ่และรัฐบาลท้องถิ่น การศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคผ่านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการคิดค้นสินค้าและบริการใหม่ๆ อยู่เสมอ

กุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TeC และคณะกรรมการสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กล่าวว่า จากการหารือครั้งนี้ พบว่าบทเรียนความสำเร็จในการพัฒนาอีคอมเมิร์ซในประเทศจีนเกิดจากปัจจัยหลายๆด้าน ได้แก่

  1. ผู้ประกอบการจีนมีความกล้าลองในสิ่งใหม่ คิดค้นนวัตกรรม และมีกลุ่มผู้บริโภคออนไลน์ที่กล้าลองสินค้าและบริการใหม่ๆ และการมีอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มขนาดกลางและเล็ก นอกเหนือจากอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ อย่าง อาลีบาบา หรือ JD
  2. ตลาดจีนมีประชากรมากถึง 14,000 ล้านคน โดยรัฐบาลจีนกลางและท้องถิ่นให้การสนับสนุนทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก และด้านเทคโนโลยีเป็นสำคัญ ทำให้มีผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ในจีนสูงถึง 639 ล้านคน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและผู้สูงอายุซึ่งมีประสบการณ์ในการซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต
  3. จีนมีมาตรการต่างๆในสนับสนุนผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ เช่น e-commerce park อย่างต่อเนื่อง และนโยบายการสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดต่างๆ รวมทั้งการการทำกฎหมายอีคอมเมิร์ซฉบับแรกของโลก ซึ่งเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา
  4. การพัฒนาและปรับปรุงอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ โดยพิจารณาถึงปัญหาและอุปสรรค เพื่อทางรัฐบาลสามารถวิเคราะห์สาเหตุและออกมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาและเกิดพัฒนาให้ดีมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสมาคมฯ และผู้แทนจากรัฐบาลจีน ทางสมาคมฯ ได้เสนอแนวทางความร่วมมือของภาครัฐบาลจีนและเอกชนไทยไว้ดังนี้

  1. ความร่วมมือในการถ่ายทอดองค์ความรู้ (Best practice) และกรณีศึกษา จากทั้งอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มขนาดใหญ่และของท้องถิ่น เนื่องจากภายในปี 2563 Huawei ได้นำเทคโนโลยี 5G มาลองใช้ในประเทศไทย และจะเกิดนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะยกระดับธุรกิจไทย เช่น เทคโนโลยี AI, Big data มาใช้มากขึ้น
  2. ประเทศไทยทดลองนำโมเดล e-commerce park ที่มีมากถึง 4,000 แห่งทั่วประเทศจีน และโมเดลอีคอมเมิร์ซท้องถิ่นที่มีอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มของตนเอง เช่น ฝั่งตะวันตกของจีน เฉิงตู เสฉวน ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงมากมาปรับใช้ เพื่อเพิ่มโอกาสผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซไทยได้การเข้าสู่ตลาดจีนและท้องถิ่นจีนมากขึ้น

“อีคอมเมิร์ซไทยในปี ในปี 2561-2562 มีอัตราเติบโตอยูที่ประมาณ 20 % ขณะที่ในปี 2560-2561 มีอัตราเติบโตประมาณ 17-18 % ซึ่งถือเป็นอับดับที่ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ หากมีการนำโมเดลสวนอุตสาหกรรม “e-Industrial Park” หรือที่จีนเรียกว่า “e-Commerce Park” มาประยุกต์ใช้ในไทย โดยนำร่องที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการผลิต ส่งเสริมและพัฒนาสินค้า ผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐ ตลอดจนการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านอีคอมเมิร์ซไปยังต่างประเทศ ก็จะยิ่งทำให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและเข้มแข็งยิ่งขึ้น” กุลธิรัตน์ กล่าว

ด้าน เจี่ย ซูอิง รองอธิบดีกรมอีคอมเมิร์ซและสารนิเทศ กระทรวงพาณิชย์จีนและคณะจากหน่วยงานจีน ได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการไทยไว้ว่า กลยุทธ์ในการเข้าอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มระดับท้องถิ่นในประเทศจีน ต้องพิจารณาความต้องการของผู้บริโภค การเรียนรู้ปรับปรุง พัฒนาและการสร้างแนวคิดใหม่ ๆ ให้เหมาะสม รวมทั้งสร้างความร่วมมือทั้งในระดับรัฐต่อรัฐ ระดับเอกชนและรัฐบาล สร้างสรรค์โครงการและกิจกรรมใหม่ ๆ ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งระบบสาธิตอีคอมเมิร์ซของจีน 3,000 แห่งทั่วประเทศนั้น รัฐบาลท้องถิ่นให้การสนับสนุนทั้งเชิงนโยบายและมาตรการต่าง ๆ อาทิ ด้านการขนส่ง ด้านการเงิน และด้านเทคโนโลยี

ทุกๆ ปี ประเทศจีนจะมีการประชุม e-commerce expo ครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีทั้งการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นจากทั้งฝั่งรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น และผู้ประกอบการจีนทั่วประเทศ ซึ่งผู้ประกอบไทยสามารถเข้าร่วมเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงได้แลกเปลี่ยนความเห็น และแง่มุมทางธุรกิจ อันจะนำไปสู่การต่อยอดเพื่อพัฒนาธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ


 

Your email address will not be published. Required fields are marked *