นิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทย ฉงจั่ว ตั้งอยู่ทางตะวันออกและเหนือของเมืองฉงจั่ว อยู่ห่างจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม 240 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย 1,700 กิโลเมตร ห่างจากท่าเรืออ่าวเป่ยปู้ 130 กิโลเมตร ห่างจากฮ่องกง 800 กิโลเมตร และห่างจากนครหนานหนิง 70 กิโลเมตร นิคมฉงจั่วฯ มีเนื้อที่ 100 ตารางกิโลเมตร เป็นนิคมฯที่มณฑลกว่างซีให้ความสำคัญต่อการพัฒนา จัดตั้งขึ้นเพื่อเข้าร่วมข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างจีน-อาเซียน


ปี 2562 ที่ผ่านมา เป็นวาระครบรอบ 16 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์จีน-อาเซียน และครบรอบ 6 ปี การดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ภายใต้ความร่วมมือเพื่อประสานข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” เข้ากับการสร้าง “เส้นทางการค้าเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่” (New International Land-Sea Trade Corridor – ILSTC) ระหว่างจีน ไทยและอาเซียน นิคมฉงจั่วฯ จะนำข้อได้เปรียบที่โดดเด่นของทั้งสองฝ่ายมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ และจะยึดมั่นในแนวคิดการพัฒนาแบบเปิดกว้าง มุ่งเน้นไปที่การสร้าง “หนึ่งเขตฐาน สามศูนย์กลาง” (เขตสาธิตความร่วมมือด้านกำลังการผลิตระหว่างประเทศ, ศูนย์กลางการค้าข้ามพรมแดน, ศูนย์กลางข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data และศูนย์กลางแลกเปลี่ยนด้านสุขภาพ การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม) ร่วมส่งเสริมความร่วมมือและการพัฒนาอุตสาหกรรมจีน-ไทย พร้อมผลักดันให้เกิดการขยายขอบเขตความร่วมมือที่หลากหลายและลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างจีน-ไทย
เขตสาธิตความร่วมมือด้านกำลังการผลิตระหว่างประเทศ
นิคมฉงจั่วฯ พร้อมมุ่งสู่การเป็นเขตสาธิตความร่วมมือด้านกำลังการผลิตระหว่างประเทศ โดยชูจุดเด่นด้านอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ อุตสาหกรรมวัสดุใหม่ อุตสาหกรรมอาหารอาเซียน อุตสาหกรรมน้ำตาลหมุนเวียน อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และอุตสาหกรรมบริการท่องเที่ยวและที่พักสไตล์ไทย ซึ่งเป็น 6 อุตสาหกรรมเด่นของนิคมฯ ผ่านการใช้โมเดลสร้างนิคมฯในนิคมฯ และการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากจากทรัพยากรและตลาดทั้งในและนอกประเทศ พร้อมอาศัยความร่วมมือภายใต้แพลตฟอร์ม “2 ประเทศหลายนิคมฯ” ซึ่งประกอบด้วยนิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทย ฉงจั่ว, นิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง, นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ, นิคมอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค, นิคมอุตสาหกรรมระยอง (ไทย-จีน), เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหารของไทย รวมไปถึงการสนับสนุนจากหน่วยงานในจีน อาทิ เขตพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงเมืองฉงจั่ว, นิคมอุตสาหกรรมน้ำตาลจีน, เขตความร่วมมืออุตสาหกรรมระหว่างสองช่องแคบไต้หวันในนิคมฉงจั่วฯ, เขตนำร่องการปฏิรูปการเงินตามแนวชายแดนกว่างซี, เขตนำร่องการพัฒนาและเปิดสู่ภายนอกเมืองผิงเสียง และเขตทดลองการค้าเสรีกว่างซี
ศูนย์กลางการค้าข้ามพรมแดน
ทั้งไทยและจีนต่างพรั่งพร้อมไปด้วยทรัพยากรแร่ธาตุ อุดมสมบูรณ์ด้วยผลไม้เมืองร้อน ธัญพืชเปลือกแข็ง น้ำตาลจากอ้อย น้ำยางและไม้ยางพารา รวมถึงผลิตผลพลอยได้จากการเกษตรมากมาย ซึ่งนิคมฉงจั่วฯ พร้อมนำศักยภาพดังกล่าวมาผนวกกับจุดเด่นด้านท่าเรือที่มากมาย ตลอดจนพิธีการศุลกากรที่สะดวกรวดเร็ว การเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งและโลจิสติกส์เย็น (Cold Chain Logistics) รวมไปถึงข้อได้เปรียบด้านนโยบายสิทธิประโยชน์อื่นๆของเมืองฉงจั่ว เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่การแปรรูปและจัดจำหน่ายไปขายทั่วทั้งจีนและประเทศต่างๆในอาเซียน โดยอาศัยประโยชน์จากแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ที่มี เช่น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ รวมถึงข้อได้เปรียบด้านช่องทางโลจิสติกส์ ทั้งทางอากาศ ทางน้ำ ทางบก และทางรถไฟของเมืองฉงจั่ว เพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์ “ซื้อจากจีน ขายทั่วจีน ซื้อจากอาเซียน ขายทั่วอาเซียน” สร้างนิคมฯให้เป็นศูนย์กลางการค้าข้ามพรมแดนสำหรับเครื่องดื่มชูกำลัง อุตสาหกรรมน้ำตาล ผลไม้ ผลิตผลพลอยได้จากการเกษตร และอุตสาหกรรมไม้ในอาเซียน
นิคมฉงจั่วฯ พร้อมใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการให้บริการสารสนเทศจีน-อาเซียน (China-ASEAN Information Harbor) เพื่อเร่งผลักดันการสร้างนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศระหว่างนิคมฉงจั่วฯกับไทย ใน 5 แพลตฟอร์ม ได้แก่ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การแบ่งปันข้อมูล การให้บริการทางเศรษฐกิจการค้า ความร่วมมือทางเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน ครอบคลุมทั้งด้านทรัพยากรมนุษย์ การเงินและเทคโนโลยี การซื้อขายสินค้า การแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ สุขภาพกับการรักษาพยาบาล และการผลิตอัจฉริยะ พร้อมกับเร่งผลักดันให้เกิดการสร้างแพลตฟอร์มข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ในนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะของทั้งสองประเทศ เพื่อให้นิคมฉงจั่วฯและไทยสามารถร่วมแบ่งปันข้อมูลสารสนเทศ และเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างแท้จริง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมผลักดันให้นิคมมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ระหว่างจีน-ไทย


ศูนย์กลางแลกเปลี่ยนด้านสุขภาพ การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม
จากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของจำนวนนักท่องเที่ยวจีน-ไทย รวมถึงการแลกเปลี่ยนด้านศิลปวัฒนธรรมและการกีฬา และศักยภาพความพร้อมทางด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพของไทย นิคมฉงจั่วฯวางแผนจะพัฒนาพื้นที่ไทยทาวน์ขนาดย่อมภายในนิคมฯ เพื่อนำศิลปวัฒนธรรมการแสดง การแพทย์ การดูแลสุขภาพและกีฬา การท่องเที่ยวเชิงเกษตร และอุตสาหกรรมการบริการที่ทันสมัยของไทยมารวมไว้ที่นิคมฯ ก้าวสู่การเป็นนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะครบวงจร ขณะเดียวกัน นิคมฯพร้อมจะนำศิลปวัฒนธรรมการแสดง การแพทย์ การดูแลสุขภาพและกีฬา การท่องเที่ยวเชิงเกษตร และอุตสาหกรรมการบริการที่ทันสมัยของเมืองฉงจั่ว รวมถึงมณฑลกว่างซีและทั่วทั้งประเทศจีนเผยแพร่สู่ประเทศไทย เพื่อให้นิคมฯกลายเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนด้านสุขภาพ การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมระหว่างจีน-ไทย
ยินดีต้อนรับทุกท่านมาที่เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ฉงจั่ว มาเยี่ยมเยือนนิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทย ฉงจั่ว และเขตความร่วมมืออุตสาหกรรมระหว่างสองช่องแคบไต้หวันในนิคมฉงจั่วฯ พร้อมศึกษาดูงานและลงทุนปักฐานความสำเร็จที่ฉงจั่ว