การเปิดประมูล 5G โดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของจุดเปลี่ยนเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย ซึ่งไทยถือเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่เปิดให้มีการประมูล 5G โดยผลการประมูลรวม 3 คลื่นความถี่ ในย่าน 700MHz 2600MHz และ 26GHz จำนวน 48 ใบอนุญาต สามารถสร้างรายได้เข้ารัฐคิดเป็นมูลค่ากว่า 100,521 ล้านบาท โดยบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค หรือ AWN ในกลุ่ม AIS ประมูลคลื่นได้มากที่สุด 23 ใบอนุญาต ครบทั้ง 3 คลื่นความถี่ แบ่งเป็น 700MHz 1 ใบ, 2600MHz 10 ใบ และ 26GHz 12 ใบ มูลค่า 42,066 ล้านบาท ส่งผลให้เอไอเอสยืนหยัดผู้นำเครือข่ายอันดับ 1 ของประเทศที่ถือครองคลื่นความถี่ในการให้บริการ 4G และ 5G มากที่สุดในอุตสาหกรรม รวมทั้งสิ้น 1420 MHz (ไม่รวมความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์)
ขณะที่ ทรู คอร์ปอเรชั่น (True) ประมูลคลื่นได้ 17 ใบอนุญาต 2 คลื่นความถี่โดยแบ่งเป็น 2600MHz 9 ใบ และ 26GHz 8 ใบ มูลค่า 21,449.78 ล้านบาท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ประมูลได้คลื่นเดียว 26GHz 2 ใบอนุญาต มูลค่า 910 ล้านบาท บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) ชนะประมูลคลื่น 700MHz 2 ใบอนุญาต และ บมจ.ทีโอที (TOT) ได้คลื่น 26GHz ไปครอง 4 ใบอนุญาต ขณะที่คลื่น 1800MHz ไม่มีผู้เข้าร่วมประมูล
เทคโนโลยี 5G มีความเร็วมากกว่า 4G ถึง 10 เท่า และปริมาณการรับส่งข้อมูลที่มากกว่า 1,000 เท่า มีความหน่วงของเวลาต่ำมาก การมาถึงของ 5G จึงเป็นจุดเริ่มต้นของยุค Internet of Things (IoT) และ AI (ปัญญาประดิษฐ์) เทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะเข้ามาปฏิวัติโลก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไร้คนขับ , สายการผลิตที่มีแต่หุ่นยนต์ , บ้านที่จะเปลี่ยนไปเป็น Smart Home , การทำเกษตรอัจฉริยะแบบ Smart farming ฯลฯ
ทั้งนี้ มีการประเมินว่า ในระยะแรกเทคโนโลยี 5G จะถูกใช้งานผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นหลัก โดยอุตสาหกรรมในกลุ่มสื่อและบันเทิง สาธารณสุข และขนส่งจะเป็นกลุ่มแรกที่เริ่มใช้เทคโนโลยี 5G
ในระยะต่อมา เทคโนโลยี 5G จะส่งผลให้ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ เข้ามามีบทบาททดแทนแรงงานมากขึ้น ซึ่งจะพลิกโฉมภาคอุตสาหกรรมการผลิต ภาคสาธารณูปโภค และภาคการเกษตรของไทยในอนาคต


• AIS – True เดินหน้าชิงผู้นำ
ภายหลังเข้ารับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 2600MHz อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา AIS ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ เปิดสัญญาณ 5G เป็นรายแรกของไทย และล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ได้ประกาศเริ่มให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ โดยมีแผนขยายเครือข่าย 5G อย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมมอบสิทธิ์ให้ผู้ที่ซื้อสมาร์ทโฟน 5G อาทิ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G , Huawei Mate 30 Pro 5G ซึ่งออกจำหน่ายในช่วงต้นเดือนมี.ค. สามารถใช้ 5G ได้ทันที โดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม จนถึง 30 มิ.ย. 2563 ในพื้นที่ซึ่งมีเครือข่าย AIS 5G
นอกจากนี้ ยังเตรียมโซน 5G Trial ให้ลูกค้าได้เข้ามาลองสัมผัสกับประสบการณ์ของจริง ที่ AIS Flagship Store เซ็นทรัลเวิลด์ และสยามพารากอน ตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไป
ด้าน True ก็ไม่น้อยหน้า เดินหน้าเปิดให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ใช้งาน 5G บนเครือข่ายจริงที่ทรูช้อป และ ทรูสเฟียร์ทั้ง 11 สาขา ได้แก่ สยามสแควร์ซอย 2-3 พารากอน ดิจิทัลเกตเวย์ เซ็นทรัลเวิลด์ ไอคอนสยาม เอ็มควอเทียร์ รวมถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินวัดมังกร สามยอด สนามไชย และอิสรภาพ พร้อมทั้งเตรียมแจกซิม 5G ให้ได้ทดลองใช้งานบนคลื่น 2600MHz เพื่อสร้างการรับรู้ โดยทรูชูจุดแข็งด้านความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายที่มีคลื่นครบและครอบคลุมที่สุดถึง 7 ย่านความถี่ ผสานกับจุดเด่นการผนึกกับพันธมิตรระดับโลกอย่างไชน่าโมบายล์ พันธมิตรผู้ถือหุ้นของทรูที่มีฐานลูกค้ามากที่สุดในโลก และเปิดให้บริการ 5G เป็นรายแรกของโลก บนคลื่นความถี่ 2600MHz ที่พร้อมสนับสนุนทั้งในด้านองค์ความรู้ ความชำนาญ และ Best Practice