นิคมฯ ฉงจั่ว พร้อมเปิดบ้านรับนักลงทุน เมื่อสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น

เริ่มต้นศักราชใหม่ 2563 ด้วยวิกฤตไวรัส COVID-19 ที่เข้ามาจู่โจมอย่างกะทันหัน ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ถูกพบครั้งแรกในอู่ฮั่น แล้วแพร่ระบาดไปทั่วประเทศจีน รวมถึงประเทศอื่นๆอย่างรวดเร็ว ซึ่งไทยก็นับเป็นหนึ่งในประเทศเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ทว่าเมืองฉงจั่ว เมืองประตูชายแดนทางตอนใต้ของจีนกลับได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ เนื่องด้วยฉงจั่วเป็นเพียงไม่กี่เมืองในจีนที่จนถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฏกรณีติดเชื้อไวรัส COVID-19 ฉงจั่วไม่เพียงแต่เป็นเมืองผู้กล้า แต่ยังเป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ และเมืองที่เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจ

ฉงจั่วเป็นเมืองการท่องเที่ยวชายแดนและเมืองการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญของจีน มีจุดแข็งด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ติดชายแดนเวียดนาม อยู่ใกล้ทะเล ใกล้เมืองเอกนครหนานหนิง และเชื่อมต่ออาเซียน ดังสมญานามที่ว่า “ประตูสู่เวียดนาม เดินสองก้าวถึงอาเซียน” ฉงจั่วเป็นเมืองข้อต่อที่สำคัญบนเส้นทางคมนาคมทางบกจีน-อาเซียน อยู่ห่างจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม 240 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย 1,700 กิโลเมตร ห่างจากท่าเรือนานาชาติชินโจว 130 กิโลเมตร ห่างจากฮ่องกง 1,100 กิโลเมตร และห่างจากนครหนานหนิง เมืองเอกของมณฑล 70 กิโลเมตร

นิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทย ฉงจั่ว ตั้งอยู่ทางเหนือและตะวันออกของเมืองฉงจั่ว เป็นนิคมฯ ที่ฉงจั่วจัดตั้งขึ้นเพื่อเข้าร่วมยุทธศาสตร์ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้ากับอาเซียน นิคมฯ มีช่องทางการคมนาคมที่สะดวกหลากหลาย (ทางด่วน: มีทางด่วนหลายเส้นผ่านนิคมฯ เช่น ทางด่วนหนานหนิง-เวียดนาม, ทางด่วนคุนหมิง-ท่าเรือนานาชาติอ่าวเป่ยปู้ / ทางรถไฟ: มีเส้นทางรถไฟขนส่งระหว่างประเทศสายมอสโก-ปักกิ่ง-ฮานอย และเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่กำลังก่อสร้างตัดผ่านนิคมฯ / ทางน้ำ: จากนิคมฯ สามารถล่องแม่น้ำจั่วเจียง มุ่งขึ้นเหนือไปยังประเทศเวียดนาม มุ่งลงใต้ไปยังกว่างโจวและฮ่องกง / ทางเครื่องบิน: นิคมฯ อยู่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติวูซู่ 70 กิโลเมตร มีเที่ยวบินให้บริการเกือบ 200 เที่ยว ไปยังปลายทางกว่า 100 เมือง) นอกจากนี้ นิคมฯ ยังสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแรงงาน ทรัพยากรดิน แร่ธาตุ และป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ของฉงจั่ว เพื่อสนับสนุนการพัฒนาของอุตสาหกรรมต่างๆ

ทิศทางของนิคมฯ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการกระชับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างจีนและไทยที่มีอยู่เดิม เสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ใหม่ (Strategic Emerging Industry) มุ่งเน้นการสร้างโครงการและฐานอุตสาหกรรมใน 6 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมพลังงานใหม่ อุตสาหกรรมวัสดุรูปแบบใหม่ อุตสาหกรรมน้ำตาลอ้อยหมุนเวียน อุตสาหกรรมอาหารอาเซียน อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบันนิคมฯ มีห่วงโซ่อุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลอ้อยหมุนเวียนที่ค่อนข้างครบวงจร มีอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมแปรรูปแมงกานีสและแร่ธาตุหายากที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ประสบความสำเร็จในการดึงดูดบริษัทที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศกว่า 100 แห่งเข้ามาลงทุนในนิคมฯ เช่น น้ำตาลมิตรผล, PRINCE, CHALCO, COFCO, CNBM, Angel Yeast, CITIC Dameng ฯลฯ กลายเป็นกำลังหลักให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองฉงจั่ว

บอกลาวันวาน เดินหน้าสู่วันใหม่ ปี 2563 เรียกได้ว่าเป็นปีที่สถานการณ์ไม่ปกติธรรดาเท่าใดนัก นิคมฯ พร้อมจะมุ่งมั่นเผชิญหน้ากับอุปสรรค ไม่ละทิ้งเจตนารมณ์เดิม เร่งเสริมกำลังแรงใจมากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันเป้าหมายใหม่ให้สำเร็จลุล่วง ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้ามาศึกษาดูงานและลงทุนปักฐานความสำเร็จที่นิคมฯ เราพร้อมมอบบริการที่ครบครันพิถีพิถัน เพื่อรับประกันการเติบโตที่มั่นคงแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ


 

Your email address will not be published. Required fields are marked *