มองจีนยุคใหม่กับโอกาสการลงทุน ตลาดหุ้นแดนมังกร

จากประเทศที่เคยยากจนข้นแค้น จีนใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบปี ก้าวขึ้นมาจนมีบทบาทสำคัญระดับโลกในทุกๆด้าน ทั้งการผลิต การค้า และนวัตกรรม รวมไปถึงตลาดทุนจีนได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทมากขึ้น กลายเป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุนที่นักลงทุนทั่วโลกรวมถึงไทยต่างให้ความสนใจ

แม้ในยามวิกฤต “COVID-19” ฉุดตลาดหุ้นทั่วโลก แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนต่างยังมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและภาวะการลงทุนตลาดหุ้นจีนที่ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว

ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO และ ผู้ร่วมก่อตั้ง Jitta แพลตฟอร์มด้านการวิเคราะห์หุ้นและบริหารความมั่งคั่งด้วย WealthTech บอกว่า นับจากช่วงปี 1990 ซึ่งจีนเริ่มเปิดประเทศและนำเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมมาใช้ ทำให้จีนได้ก้าวสู่ทศวรรษของการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว

แม้ในปีที่ผ่านมา GDP ของจีนจะเติบโตต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 6.1% แต่ก็ยังถือเป็นประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอันดับต้นๆของโลก จีนยุคใหม่ไม่ได้เป็นเพียง“โรงงานของโลก”อีกต่อไป แต่ได้เปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบเศรษฐกิจใหม่ หรือ New Economy ที่เน้นเรื่องของนวัตกรรมในการผลิตและเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นด้านดิจิทัล ซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ เทคโนโลยี AI รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ฯลฯ ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกอนาคต ทำให้ตลาดหุ้นจีนมีความน่าสนใจ และมีหุ้น Growth Stock โอกาสเติบโตสูง

ปัจจุบัน ผู้บริโภคชาวจีนยังเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้มากขึ้น และมีการใช้จ่ายผ่านออนไลน์ ทำให้มีการเชื่อมต่อธุรกิจ Online และ Offline และมีการนำเทคโนโลยีต่างๆมาผสมผสานในการทำธุรกิจ เช่น การใช้ Big Data และ AI มาเก็บข้อมูลและประมวลผลพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้สามารถนำเสนอสินค้า บริการ และโปรโมชั่นต่างๆ ได้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น Luckin Coffee บริษัทจีนยุคใหม่ที่ใช้พลังของเทคโนโลยีจนสามารถขยายสาขาในจีนได้อย่างรวดเร็วมากกว่า 4,500 สาขาภายในไม่กี่ปี จนแซงหน้า Starbucks โดยได้พันธมิตรธุรกิจอย่าง Tencent เข้ามาช่วยเหลือในด้านเทคโนโลยี แอปพลิเคชัน การเก็บข้อมูล ระบบจ่ายเงิน สร้างจุดขายร้านกาแฟ Smart Retail ที่มาพร้อมประสบการณ์ Online to Offline

ด้วยความที่จีนเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากร 1,400 ล้านคนทำให้การบริโภคของชาวจีน เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อเศรษฐกิจจีนในวันข้างหน้า การกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจไปสู่ภูมิภาค ทำให้แนวโน้มการบริโภคตลาดในประเทศของจีนยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีก

แม้ในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แต่เมื่อจีนเริ่มควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ ทำให้ตลาดหุ้นจีนได้รับแรงตอบรับในเชิงบวก และเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลเพียงชั่วคราว โดยนักลงทุนยังมีมุมมองว่า จีนยังมีโอกาสการเติบโตจากการพึ่งพาบริโภคภายในประเทศ และจากแผนยุทธศาสตร์ชาติที่มุ่งใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ตราวุทธิ์ วิเคราะห์ว่า หากมองในเมกะเทรนด์ใหญ่ของโลก ส่วนตัวมองว่า หุ้นจีนกลุ่มที่มีศักยภาพในการลงทุนอันดับต้นๆ ยังคงเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีซึ่งมีข้อมูลในมือมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น Alibaba และTencent ที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ในจีน รวมถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีโอกาสเติบโตสูง

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเจริญเติบโตของการบริโภคของชนชั้นกลางในจีน เช่น ธุรกิจสุราอย่างเหล้า Moutai (เหมาไถ) หรือ ธุรกิจร้านอาหารหม้อไฟ Hai Di Lao (ไห่ตี้เหลา)ที่มีการเติบโตอย่างมหาศาล”

ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เราจึงเห็นภาพกองทุนต่างประเทศหลายๆกอง รวมทั้งในไทยที่มีการตั้งกองทุนเพื่อไปลงทุนในตลาดหุ้นจีนเป็นจำนวนมาก สำหรับคำแนะนำสำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจจะออกไปลงทุนในตลาดหุ้นจีนจึงควรต้องสำรวจตัวเองก่อนว่ามีความถนัดแบบไหน ถ้าเป็นนักลงทุนที่มีศักยภาพลงทุนด้วยตัวเอง ปัจจุบันสามารถเปิดบัญชีเทรดหุ้นจีนผ่านโบรกเกอร์ในเมืองไทยได้หลากหลายที่ ไม่ว่าจะเป็น กิมเอ็ง, SCB ,KBANK ฯลฯ ซึ่งค่าธรรมเนียมในปัจจุบันถือว่าไม่ได้แพงมาก

อีกช่องทางหนึ่ง คือ การลงทุนผ่านกองทุนรวมซึ่งปัจจุบันมีกองทุนหุ้นจีนเปิดตัวใหม่ๆเพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนในไทยมากขึ้น สิ่งสำคัญคือผู้สนใจลงทุนควรเริ่มต้นจากการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจของจีน ซึ่งในปัจจุบันมีช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับตลาดหุ้นจีนได้มากขึ้น รวมทั้งสามารถศึกษาข้อมูลได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.jitta.com และแอปพลิเคชัน Jitta ซึ่งล่าสุดได้มีการขยายฐานข้อมูลการวิเคราะห์ครอบคลุมตลาดหลักทรัพย์ในจีน ได้แก่ Shenzhen Stock Exchange (SZSE) กับ Shanghai Stock Exchange (SSE) โดยสามารถเข้ามาศึกษาข้อมูลงบการเงิน บทวิเคราะห์หุ้นจีน รวมถึงการจัดอันดับหุ้นที่น่าลงทุนตามหลัก Value Investor (VI) เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสรุปแล้ววันนี้ การลงทุนในหุ้นจีนยังมีโอกาสที่น่าสนใจ แต่นักลงทุนควรศึกษาตลาดหลักทรัพย์จีนให้ถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะการลงทุนทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยง


ส่องโอกาสตลาดหุ้นจีน

3 ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี ‘Baidu-Alibaba-Tencent’, บริษัทเพาะพันธุ์หมู Muyuan Foods ,บริษัท Jiangsu Wuzhong ผู้ผลิตยา Arbidol ที่ใช้ในการรักษาโรคไข้หวัด เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของธุรกิจดาวเด่นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของจีนวันนี้

การลงทุนในบริษัทจดทะเบียนของจีนนั้น นักลงทุนสามารถลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Stock Exchange – SSE) และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (Shenzhen Stock Exchange – SZSE) ทั้งสองตลาดหลักทรัพย์มีมูลค่าใหญ่ติด 1 ใน 10 ของตลาดหลักทรัพย์โลก โดย SSE นั้นมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 และ SZSE อยู่ที่อันดับ 8

นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนในทั้งสองตลาดหลักทรัพย์นั้น ส่วนใหญ่เป็นบริษัทจีนที่ขายสินค้าและบริการภายในประเทศที่นักลงทุนไทยอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อ แต่ด้วยขนาดประชากรของประเทศจีน ทำให้บริษัทเหล่านี้เติบโตมีมูลค่าธุรกิจเพิ่มขึ้นและเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าจับตา

5 อับดับหุ้นจีนที่มีผลตอบแทนสูง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ( ข้อมูล ณ สิ้นปี 2562 )

  • Muyuan Foods Co., LTD.
  • Zhongji Innolight Co., LTD.
  • ShenZhen Sunway Communication Co., LTD.
  • Luxshare Precision Industry Co., LTD.
  • EVE Energy Co., LTD.

10 อันดับหุ้นจีนที่น่าสนใจ (จากข้อมูลการจัดอันดับของ Jitta Ranking ณ วันที่ 16 มี.ค.63)

  • Huaxin Cement Co., LTD.
  • Gansu Shangfeng Cement Co., LTD.
  • Chongqing Fuling Electric Power Industrial Co., LTD.
  • Gansu Qilianshan Cement Group Co., LTD.
  • Ningxia Building Materials Group Co., LTD.
  • Media Group Co., LTD.
  • Yingkou Port Liability Co., LTD.
  • Bank of Nanjing Co., LTD.
  • Citic Pacific Special Steel Group Co., LTD.
  • Xinjiang Tianshan Cement Co., LTD.

 

Your email address will not be published. Required fields are marked *