มียอดวิวแต่ละบทความใน WeChat Official มากกว่า 1 แสนวิว ยอดคนกดถูกใจเพจ Facebook อีกกว่า 3.16 ล้านคน มียอดคนติดตามบน YouTube อีก 9.09 ล้านคน
ในปี 2562 คลิปของเธอมีผู้ชมทะลุ 5 พันล้านวิว แต่ละคลิปมียอดวิวตั้งแต่หลักล้านไปจนถึงหลักสิบล้านวิวเลยทีเดียว…
ใครที่ไม่รู้มาก่อน คงคิดว่าเธอเป็นซูเปอร์สตาร์ผู้โด่งดังมาหลายสิบปี แต่ไม่ใช่เลย สาวคนนี้เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาๆที่ทั้งขยันและเก่งสารพัด แต่งตัวย้อนยุคในชุดกระโปรงพีเรียด ผมดำขลับยาวถึงเอว ใบหน้าสวยแบบธรรมชาติ สองมือของเธอสร้างสรรค์อะไรต่อมิอะไรได้มากมาย และมีจิตใจอันเด็ดเดี่ยว
เธอคือ “หลี่ จื่อชี” เน็ตไอดอลผู้โด่งดังจากการถ่ายทอดวิถีชนบทเรียบง่ายให้กลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดาบนโลกโซเชียล
“หลี่ จื่อชี” เป็นใคร? ทำไมคลิปของเธอถึงโด่งดังทั้งในและต่างประเทศ?
“หลี่ จื่อชี” เป็นชาวเสฉวนที่เกิดในยุค 90 สร้างตัวตนได้อย่างมหัศจรรย์จากสองมือและความเก่งกาจ ผ่านการนำเสนอเมนูอาหารพื้นบ้านสุดว้าว โดยใช้ชีวิตอาศัยอยู่ในชนบทกับคุณยายที่รัก ท่ามกลางพืชผักเขียวชอุ่มและธรรมชาติอันงดงาม
แต่ละเมนูอาหารของเธอจะใช้วัตถุดิบพื้นบ้านที่เก็บเกี่ยวเองหรือขุดมาจากในสวน นำมาสร้างสรรค์เป็นอาหารพื้นบ้านตามฤดูกาล เมื่อถึงฤดูพีช เธอจะเก็บพีชสุกจากต้นมาทำเป็นพีชในน้ำเชื่อมแบบผลไม้กระป๋อง แปรรูปเป็นแยม และยังหมักเป็นเหล้าได้อีกด้วย
เมื่อลูกฟักทองในไร่สุก เธอจะเก็บมาทำฟักทองนึ่ง และข้าวอบฟักทอง
เมื่อถึงฤดูกาลดอกบัวบาน เธอจะออกไปหาดอกบัว ใบบัว สายบัว และรากบัว มาทำเป็นเมนูผัดสายบัว ไก่ขอทาน และชาใบบัว
ยิ่งไปกว่านั้น ยังลงแรงทำซอสถั่วเหลืองหมักแบบโบราณด้วยตัวเองตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก ทำซอสไข่เค็มด้วยตัวเองตั้งแต่ขั้นตอนการเลี้ยงเป็ด ทำผ้าห่มไหมจีนให้กับคุณย่าด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนเลี้ยงหม่อนไหม
หลี่ จื่อชี ไม่ได้เก่งแค่เพียงงานบ้าน แต่ยังเชี่ยวชาญในการทำ “4 สิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือ” ได้แก่ กระดาษ หมึก พู่กัน แท่นฝนหมึก รวมไปถึงเครื่องสำอาง งานปักผ้าไหมเสฉวน หรือแม้แต่ของใช้ในบ้านต่างๆ
น่าทึ่งมากที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งสามารถใช้แรงงานทำโน่นทำนี่ได้อย่างดีและใช้งานได้จริง จนมีคนยกให้เธอเป็น “ฮัวมู่หลานยุคปัจจุบัน”
หลี่ จื่อชี มักสวมใส่ชุดจีนโบราณฮั่นฝู ทำการเกษตร ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ฯลฯ ด้วยวิถีแบบดั้งเดิม เพื่อถ่ายทอดชีวิตแบบชนบทให้คนเมืองได้เห็นว่า อาหารที่เราทานกันอยู่ทุกวัน มีจุดเริ่มต้นมาจากไหนผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวการใช้ชีวิตผูกพันตามสี่ฤดูกาลไปกับผู้เป็นย่า ชวนให้ผู้ชมสัมผัสความสุขและความเงียบสงบของการกลับสู่วิถีชนบท
เสน่ห์ของเธออยู่ที่การทำให้วิถีชีวิตเกษตรพื้นบ้านกลายเป็นเหมือนดินแดนแห่งสวรรค์ เปลี่ยนวันเวลาที่แสนจืดชืดให้กลายเป็นบรรยากาศแห่งกวี การชมคลิปของเธอเหมือนกับได้ชมภาพวาด “บุปผายามใบไม้ผลิ ตะวันยามฤดูร้อน จันทรายามใบไม้ร่วง หิมะยามฤดูหนาว” โดยเฉพาะรอยยิ้มของเธอกับย่าที่ทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงการไม่แก่งแย่งชิงดี ความสงบสุข ไร้ความกังวลใจ ลืมความความวุ่นวายในเมืองใหญ่ คลายความกดดันจากการทำงาน ความยุ่งยากในชีวิต ทำให้จิตใจเบิกบานและมีความสุข เติมเต็มความฝันในชนบทที่คนยุคนี้ต่างโหยหา
ถึงแม้“หลี่ จื่อชี” ในคลิป จะมีความสามารถรอบด้าน ทั้งปีนต้นไม้เก็บพืชผล เย็บปักถักร้อย สร้างเก้าอี้ไม้ไผ่และชิงช้าจากไม้ ขุดหน่อไม้ เก็บดอกบัว แต่ชีวิตจริงของเธอกลับคล้ายซินเดอเรลล่า
เธอเกิดในชนบท พ่อแม่แยกทางกัน พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก แถมยังถูกแม่เลี้ยงทารุณ เธอจึงเติบโตมากับปู่และย่า เริ่มเข้าไปทำงานในเมืองตั้งแต่อายุ14 เคยเป็นทั้งพนักงานเสิร์ฟ และดีเจ หลังจากที่ปู่เสียชีวิต เธอจึงเหลือย่าเพียงคนเดียว
ประสบการณ์ในอดีตได้หล่อหลอมให้เธอเป็นคนเข้มแข็งไม่ย่อท้อ เมื่อใครๆสงสัยว่าทำไมเธอถึงเก่งไปเสียทุกอย่าง เธอตอบเพียงแค่ว่า “บางทีทักษะการใช้ชีวิตที่คุณเห็น อาจเป็นเพียงสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของผู้อื่น”
ในปี 2555 เมื่อย่าป่วยหนัก เธอจึงตัดสินใจลาออกจากงาน เพื่อกลับบ้านมาอยู่ดูแลย่า สำหรับหลี่ จื่อชี ย่าคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เธอเคยเปิดร้านบนเถาเป่าโดยถ่ายคลิปอาหารเพื่อเป็นช่องทางโปรโมทร้านด้วยตนเอง แต่ได้กระแสตอบรับอย่างคาดไม่ถึง
ในที่สุด เธอจึงปิดร้านและหันมาทำคลิปอย่างจริงจัง ถึงแม้จะเคยถูกคำครหาว่า มีทีมงานคอยช่วยเหลือ ส่วนเธอมีบทบาทแค่ออกกล้อง ซึ่งเธอเคยออกมาแก้ต่างเรื่องนี้ แต่สุดท้ายก็ได้เรียนรู้ว่า การออกมาโต้ตอบนั้นหยุดข่าวลือไม่ได้ การตั้งใจนำเสนอคอนเทนต์ดีๆต่างหากถึงจะยั่งยืน ต่อมาเมื่อคลิปได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงจ้างช่างภาพวิดีโอและผู้ช่วยอีกหนึ่งคน แต่ยังเป็นผู้กำกับดูแลการผลิตคลิปวิดีโอเองทุกขั้นตอน
สื่อทางการถึงกับให้การชื่นชมการถ่ายทอดเรื่องราวดีๆของจีนด้วยวิถีชีวิตในแบบของตัวเอง
คลิปของ“หลี่ จื่อชี”เต็มไปด้วยความแปลกใหม่และเสน่ห์ที่น่าค้นหาของวัฒนธรรมตะวันออก แม้จะไม่มีเสียงพูดเลยสักคำ และไม่มีซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ แต่กลับดึงดูดชาวต่างชาติได้ มีคอมเมนต์มาจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งล้วนแต่ชื่นชมในตัว “หลี่ จื่อชี” และสนใจอยากใช้ชีวิตชนบทแบบนั้นบ้าง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คลิปของ “หลี่ จื่อชี” เปรียบเสมือนการเปิดหน้าต่างบานใหม่ นำจีนยุคปัจจุบันอวดสู่สายตาชาวโลก พร้อมกับ”หน้าต่างบานอื่น ๆ” หรือกลุ่มคนอีกมากมายที่มีวิถีคล้ายๆ“หลี่ จื่อชี”
สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศจีนได้แสดงความชื่นชมว่า “หากไม่มีความรักคงไม่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้เช่นนี้ หากปราศจากความหลงใหลชื่นชมชีวิต คุณก็คงไม่สามารถเข้าใจหลี่ จื่อชี”
“หลี่ จื่อชี” ใช้ความมานะและสติปัญญา บอกเล่าเรื่องราวและสิ่งที่สวยงามมากมาย นำเสนออาหาร ทัศนียภาพ และวัฒนธรรมพื้นบ้านของจีนให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ทำให้เราตระหนักว่าชีวิตชนบทไม่ได้มีแต่ความเสื่อมโทรมล้าหลัง แต่ยังมีความหลากหลาย สิ่งดีงาม และให้ความสบายใจ
ถึงแม้ว่าโลกจะสับสนวุ่นวาย แต่เราก็ต้องเชื่อมั่นแบบ “หลี่ จื่อชี” ว่าอนาคตยังมีสิ่งที่สวยงามอีกมากมาย คุ้มค่าให้เรารอคอย
