New Normal ‘การท่องเที่ยว’ ความท้าทายใหม่หลัง COVID-19

การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคไปจากเดิมสู่‘ชีวิตวิถีใหม่’หรือ New Normal หนึ่งในนั้นคือรูปแบบการท่องเที่ยวที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ได้วิเคราะห์ถึง New Normal 5 ประการที่จะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังสถานการณ์ COVID-19 ไว้อย่างน่าสนใจ ในงานสัมมนาออนไลน์ “กลยุทธ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยในสถานการณ์ COVID-19” จัดโดย ททท.ร่วมกับ Expedia Group และสมาคมโรงแรมไทย

5 New Normal การท่องเที่ยว

1. Nothing will be the same : ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ นำมาสู่การออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส และสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น มาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของสายการบินและโรงแรมที่พัก

2. Only the strong travel : นักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญด้านสุขภาพและความปลอดภัยมากขึ้น ต้องการข้อมูลด้านความสะอาด สุขอนามัยพื้นฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้งจะเกิดการแบ่งปันข้อมูลต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคระบาด

3. Everything’s under control : สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวต่างๆ จะสามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของมาตรการการควบคุมโรค และปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทาง การเคลื่อนย้ายหรือการรวมตัวกันของกลุ่มคน เป็นต้น

4. Rise of the individual : นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวคือ กลุ่ม Gen Y หรือ กลุ่ม Millennial ซึ่งมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ชอบคิดนอกกรอบ และชื่นชอบในนวัตกรรมใหม่ๆ โดยผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ และปรับเปลี่ยนวิธีการให้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มนี้มากยิ่งขึ้น

5. Digital future is now : เทคโนโลยีจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจในการบริการต่างๆ

ทั้งนี้ ททท. อยู่ระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นพัฒนาและยกระดับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวอย่างเป็นขั้นตอน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระยะ

Lockdown Exit : เป็นระยะที่เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ โดย ททท. จะไม่กระตุ้นให้เกิดการออกเดินทางท่องเที่ยว แต่จะเน้นเรื่องการเตรียมความพร้อม การซ่อมสร้าง และการปรับตัวเข้าสู่ New Normal ที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงและยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว

Selective Open : เป็นระยะที่เริ่มมีการเปิดเมือง และจะเปิดอย่างจำกัดประมาณ 50-60% ของพื้นที่เที่ยว ซึ่งจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในบางประเทศสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ แต่ต้องเป็นประเทศที่มีการควบคุมโรคเป็นอย่างดี และต้องมีใบอนุญาตจากแพทย์ โดยในระยะที่ 2 นี้จะยังมีมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดซ้ำ

Extensive Open : ในระยะนี้จะเปิดเมืองทั้งหมด ซึ่งความพร้อมในการเปิดประเทศทั้งหมดอาจจะใช้เวลาถึง 3-6 เดือนเป็นอย่างน้อย และการเปิดเมืองครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิมเพราะยังต้องให้ความสำคัญด้านความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจทางด้านสุขอนามัยให้แก่นักท่องเที่ยว

“ในขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในระยะแรกคือ Lockdown Exit ที่เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆมากขึ้น จึงเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังปรับปรุง ซ่อมสร้าง และเตรียมความพร้อมให้แก่บริการเพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการ พร้อมสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางเข้ามาในอนาคต” ผู้ว่าททท.ให้ข้อมูล


 

Your email address will not be published. Required fields are marked *