

จนสร้างสถิติบริษัทอายุน้อยที่สุดที่สุดที่ติดทำเนียบ Fortune Global 500 เป็นครั้งแรกในปี 2562 และผงาดขึ้นมาเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 4 ของโลก
ในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปี ‘Xiaomi’ เมื่อไม่นานมานี้ ‘เหลย จุน’ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Xiaomi ได้แบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จ พร้อมเผยถึงกลยุทธ์ในอนาคตที่จะนำพา Xiaomi สู่ความสำเร็จในอีก 10 ปีข้างหน้า ได้แก่
‘สมาร์ทโฟน X AIoT’ , ‘แนวทาง 3 ประการ’ และ ‘การกลับมาเป็นสตาร์ทอัพอีกครั้ง’
จุดเริ่มต้นของความฝัน
ความฝันของ Xiaomi ตั้งแต่แรกเริ่ม คือ “การสร้างโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในโลก และจำหน่ายในราคาเพียงครึ่งหนึ่งเพื่อให้ทุกคนสามารถซื้อได้”
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ‘เหลย จุน’ นักลงทุนและอดีตผู้บริหารของ Kingsoft บริษัทด้านซอฟท์แวร์ ได้ร่วมกับกลุ่มเพื่อนก่อตั้ง Xiaomi ในเดือนเม.ย.2553 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนามือถือที่ดีที่สุดในโลกที่ราคาทุกสามารถเอื้อมถึง
แม้จะดูเป็นความฝันที่น่าเหลือเชื่อสำหรับบริษัทเล็กๆที่เริ่มต้นจากศูนย์ในย่านจงกวนชุน กรุงปักกิ่ง ซึ่งยังไม่เคยย่างกรายเข้าสู่ธุรกิจมือถือมาก่อน แต่ ‘เหลย จุน’ก็อยากลองสู้ดูสักตั้ง
ย้อนกลับไปยุคนั้น บรรดาแบรนด์มือถือยักษ์ใหญ่ที่ครองตลาดล้วนแต่เป็นบริษัทด้านฮารด์แวร์ ‘เหลย จุน’เลยตีโจทย์ธุรกิจด้วยการนำแนวคิดอินเตอร์เน็ตมาใช้ในการบุกเบิกธุรกิจสมาร์ทโฟน โดยผสานเอาจุดแข็งด้านซอฟท์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และบริการอินเตอร์เน็ตที่ดีที่สุดมารวมเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นโมเดลธุรกิจสมาร์ทโฟนแบบ “Triathlon” (ไตรกีฬา)ที่พลิกโฉมตลาดครั้งใหญ่
ในปี 2554 Xiaomi ได้วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นแรก Mi 1 ในราคาเพียงแค่ 1,999 หยวน แม้จะแพงกว่าที่ตั้งใจตั้งราคาตอนแรกไว้ที่ 1,499 หยวน เนื่องจากสาเหตุเรื่องต้นทุน แต่ปรากฏว่าสามารถสร้างยอดขายถล่มทลายกว่า 7 ล้านเครื่อง
สิ่งที่ ‘เหลย จุน’เน้นอย่างมากก็คือ การพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพสูง โดยอัตราส่วนราคาต่อประสิทธิภาพของสินค้าถือเป็นอาวุธทรงพลังที่ทำให้ Xiaomi สามารถเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนสเปคขั้นเทพในราคาสุดคุ้ม
ธุรกิจด้านฮาร์ดแวร์ของ Xiaomi จะไม่เอากำไรเกิน 5% แต่จะมุ่งเน้นการเติบโตในระยะยาวจากการสร้างอาณาจักร ecosystem ของ Xiaomi ที่เชื่อมต่อกับ Internet of Things (IoT)
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Xiaomi จึงมีผลิตภัณฑ์ครอบจักรวาล แตกแขนงไปยังธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ และได้สร้างแพลตฟอร์ม IoT สำหรับลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 271 ล้านผลิตภัณฑ์ (ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป)
กลยุทธ์สู่ความสำเร็จในอีก 10ปีข้างหน้า
ด้วยอายุ 10 ปี Xiaomi กำลังก้าวเดินสู่วัยผู้ใหญ่ ด้วยเเรงบันดาลใจกล้าแกร่งในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และได้ลงทุนพัฒนาและวิจัยกว่า 1 หมื่นล้านหยวน
ทั้งนี้ ‘เหลย จุน’ ผู้ก่อตั้ง ประธานบริหารและซีอีโอของ Xiaomi ได้เผยแพร่จดหมายถึงพนักงาน โดยประกาศถึงกลยุทธ์ที่สำคัญและแผนงานก้าวต่อไปในทศวรรษหน้า ได้แก่
• ประการแรก : ในอีก 10 ปีข้างหน้า Xiaomi จะอัพเกรดกลยุทธ์หลักสู่การเป็น “สมาร์ทโฟน X AIoT”
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ธุรกิจสมาร์ทโฟนเป็นหัวใจหลักของ Xiaomi และในอนาคตอันใกล้นี้ สมาร์ทโฟนจะเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะส่วนบุคคลที่มีความสำคัญที่สุดในตลาด โดยจะยังคงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการประมวลผลเคลื่อนที่ส่วนบุคคลสำหรับทุกคน ทำหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมที่ทุกคนมีปฏิสัมพันธ์กัน และเป็นสิ่งที่จะติดตัวอยู่กับเราทุกคน
สมาร์ทโฟนจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จ และเป็นรากฐานที่สำคัญของโมเดลธุรกิจของ Xiaomi ด้วยกลยุทธ์หลัก “สมาร์ทโฟน x AIoT” เมื่อการเชื่อมต่ออัจฉริยะผสานเข้ากับชีวิตของเรามากขึ้น จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงซึ่งเกื้อหนุนกัน โดยธุรกิจ AIoT จะช่วยทำให้ธุรกิจสมาร์ทโฟนของ Xiaomi ขยายไปสู่การมีแอปพลิเคชันที่มากขึ้น ชนะใจผู้ใช้มากขึ้น และในที่สุดก็จะสร้างความสามารถทางการแข่งขันทางธุรกิจให้กับโมเดลทางธุรกิจของ Xiaomi
• ประการที่สอง : ในทศวรรษหน้า Xiaomi จะยังคงยึดมั่นใน “หลักการสามประการ”
Xiaomi จะไม่หยุดที่จะสำรวจและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราส่วนราคาต่อประสิทธิภาพที่เหมาะสม และพยายามสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเพื่อให้ทุกคนในโลกมีชีวิตที่ดีขึ้น
• ประการที่สาม : กลับมาเป็นสตาร์ทอัพอีกครั้ง
นับตั้งแต่วันแรก Xiaomiได้สร้างวัฒนธรรมสตาร์ทอัพและพาร์ทเนอร์ชิพ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Xiaomi ได้ดึงดูดผู้คนที่มีความสามารถจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดทีมสตาร์ทอัพที่ขยันขันแข็งและมีความสามารถสูง กระตุ้นการเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทพร้อมกับความสำเร็จที่โดดเด่น
ในทศวรรษที่กำลังจะมาถึงนี้ Xiaomiจะกลายเป็นสตาร์ทอัพอีกครั้งและจะยังคงดึงเอาผู้คนที่มีความสามารถเข้ามาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่ง โดยนอกจากโครงการพาร์ทเนอร์ชิพแล้ว Xiaomi ยังได้ริเริ่ม“โครงการผู้ประกอบการแห่งทศวรรษใหม่” โดยเพื่อนร่วมงานที่มีความสามารถสูง มีศักยภาพและผลงานดีที่สุดจำนวน 100 คนซึ่งเป็นตัวแทนของพันธกิจ วิสัยทัศน์และค่านิยมหลักของ Xiaomi จะได้รับการคัดเลือกและให้รางวัลเป็นแพ็คเกจเพื่อก้าวเป็นผู้ประกอบการรุ่นแรก
เติบโตต่อเนื่องแม้เผชิญ COVID-19
แม้ว่าทั่วโลกจะเผชิญกับวิกฤต COVID-19 แต่ระบบนิเวศทางธุรกิจที่หลากหลายของ Xiaomi ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัว โดยมีรายรับและผลกำไรสูงกว่าประมาณการส่วนใหญ่ โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ Xiaomi มีรายได้รวมอยู่ที่ 103.24 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 7.9% ทำกำไรอยู่ที่ 6.65 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 29.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยในกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟนมีรายได้อยู่ที่ 61.952 พันล้านหยวน และมียอดจัดส่งสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 28.3 ล้านหน่วย ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT และไลฟ์สไตล์มีรายได้อยู่ที่ 28.237 พันล้านหยวน ส่วนกลุ่มบริการอินเทอร์เน็ตมีรายได้อยู่ที่ 11.808 พันล้านหยวน
ล่าสุด ปีนี้ Xiaomi ยังได้รับการจัดอันดับอยู่ในทำเนียบ Fortune Global 500 เป็นครั้งที่สอง โดยขยับมาอยู่ในอันดับที่ 422 ซึ่งสูงขึ้นถึง 46 อันดับจากปีที่แล้ว
เมื่อเร็วๆนี้ Xiaomi ยังได้เปิดตัวโรงงานอัจฉริยะ ด้วยมูลค่าการลงทุนรวม 600 ล้านหยวน ซึ่งเป็นการเปิดยุคแห่งการผลิตเหนือระดับ โดย Mi 10 Ultra นับเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นอัลตร้าไฮเอนด์รุ่นแรกที่ดำเนินการผลิตที่โรงงานอัจฉริยะแห่งนี้ โดย ‘เหลยจุน’ เชื่อมั่นว่า ในทศวรรษหน้า การผลิตอัจฉริยะจะช่วยทำให้แบรนด์จีนผงาดขึ้นไปอีกขึ้น และ Xiaomi จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ในอุตสาหกรรมการผลิตของจีนที่ไม่อาจมองข้าม
———————————-