ประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านการผลิตรถยนต์ที่สำคัญ โดยเป็นผู้ผลิตยานยนต์อันดับที่ 11 ของโลก อันดับที่ 5 ของเอเชีย และอันดับ 1 ของอาเซียน มีมูลค่าการลงทุนกว่า 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมูลค่าอุตสาหกรรมยานยนต์คิดเป็น 10% ของ GDP ของประเทศ
เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) หรือ GWM บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีนเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มั่นใจในศักยภาพประเทศไทย โดยล่าสุดเมื่อต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทได้จัดพิธีเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสเริ่มเข้ามาดำเนินงานในโรงงานที่จ.ระยองอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการดำเนินงานตามกลยุทธ์โลกาภิวัตน์ (Globalization Strategy) ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำเทรนด์ในการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมไปถึงการพัฒนาทักษะและศักยภาพของบุคลากรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โรงงานแห่งนี้ยังเป็นโรงงานแบบเต็มรูปแบบแห่งแรกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในภูมิภาคอาเซียน โดยตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นฐานการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์พวงมาลัยขวาของภูมิภาคนี้


(จากซ้ายไปขวา) มร. หลี่ กวงหยู่, มร. จาง เจียหมิง และ นายอำนาจ แสงจันทร์
จาง เจียหมิง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรากฐานที่แข็งแกร่งและมีความพร้อมในฐานะผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ เล็งเห็นถึงโอกาสและศักยภาพของประเทศซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศที่ผลิตรถยนต์เป็นจำนวนมากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเปี่ยมไปด้วยแรงงานด้านยานยนต์มากฝีมือ มีโรงงานประกอบรถยนต์ และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีคุณภาพเป็นจำนวนมาก
ตลอดระยะเวลา 9 เดือนนับจากวันแรกที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เข้ามาในประเทศไทย การเริ่มเข้ามาดำเนินงานในโรงงานที่ระยองอย่างเป็นทางการในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญและน่าจดจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ และในฐานะ ‘บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก’ (Global Mobility Technology Company) เราเชื่อว่างานในวันนี้จะช่วยตอกย้ำเป้าหมายของเราที่จะนำวิสัยทัศน์ ความชำนาญ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และบริการอันยอดเยี่ยมและล้ำสมัยมาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคชาวไทยผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของเรา”
ยกเครื่องโรงงานใหม่สู่ Smart Factory
ด้าน กวงหยู่ รองประธานบริหาร ฝ่ายการผลิตในโรงงาน ภูมิภาคอาเซียน กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราพร้อมที่จะยกระดับโรงงานแห่งนี้ให้เป็น Smart Factory หรือ โรงงานอัจฉริยะ ตามมาตรฐานสากลของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยเราจะมีการปรับปรุงและอัพเกรดโรงงานใหม่ เพื่อติดตั้งระบบการผลิตและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดในการดำเนินงานต่างๆ ภายในโรงงาน
ทั้งนี้ เรามีเป้าหมายที่จะให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาของภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ นอกจากนี้การเริ่มเข้ามาดำเนินการทำงานที่โรงงานระยองในครั้งนี้ ยังเป็นการเพิ่มการจ้างงานและเสริมสร้างทักษะที่เป็นประโยชน์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้กับแรงงานไทยได้อย่างเต็มศักยภาพอีกด้วย”
การปักหมุดสร้าง “โรงงานอัจฉริยะ” (Smart Factory) ในไทยที่จ.ระยอง ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาและยกระดับระบบการผลิตยานยนต์ ผ่านนวัตกรรม เทคโนโลยี องค์ความรู้ และระบบการทำงานต่างๆ รวมไปถึงการวางแผนที่จะนำหุ่นยนต์ และการเชื่อมโยงระบบข้อมูลอัจฉริยะที่รวมการวิจัย การผลิต การจัดหา และการตลาดเข้าด้วยกัน เพื่อมาเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงาน ลดการใช้แรงงานในส่วนงานที่อันตรายและต้องการความแม่นยำสูงที่สามารถใช้หุ่นยนต์ทดแทนได้ เพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงานไปทำในส่วนสำคัญอื่นๆ มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีศักยภาพเพื่อนำมาส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next-Generation Automotive) อาทิ
- การใช้หุ่นยนต์ และระบบ Welding machine ที่ทันสมัยในกระบวนการผลิตและประกอบรถยนต์ในโรงงาน
- การใช้แพลตฟอร์ม Lemon แพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบโมดูล่าร์ระดับโลกที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการพัฒนาของรถซีดาน รถเอสยูวี และรถเอ็มพีวี ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา สามารถลดแรงระหว่างการขับเคลื่อนให้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การใช้แพลตฟอร์ม Tank แพลตฟอร์มระดับโลกเพื่อตอบโจทย์ทุกขีดความสามารถในการผลิตรถยนต์สำหรับการขับขี่แบบออฟโรด
- การใช้ระบบ Coffee Intelligence ระบบอัจฉริยะเพื่อการขับเคลื่อนแห่งอนาคต (Future Mobility) ที่ประกอบด้วย ห้องโดยสารอัจฉริยะ (Intelligent Cab) การขับขี่อัตโนมัติ (Intelligent Driving) และการออกแบบไฟฟ้าอัจฉริยะ (Intelligent Electrical Architecture) ที่จะสร้างประสบกาณ์การขับขี่ที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถในการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต ที่จะสร้างความสัมพันธ์ใหม่และใกล้ชิดกันระหว่างคนและรถได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากมุ่งเน้นการขับเคลื่อนเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยแล้ว การเข้ามาลงทุนของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังให้ความสำคัญกับการจ้างงาน รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรไทย ทั้งทักษะสมัยใหม่ องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม และการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถรองรับอุตสาหกรรมใหม่ที่กำลังจะเติบโต และสอดคล้องกับแนวทางการยกระดับการพัฒนาเศรษกิจของประเทศ
รู้จัก Great Wall Motor
เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) หรือ GWM เป็นผู้ผลิตรถ SUV และรถกระบะระดับโลก ก่อตั้งบริษัทในปี 2527 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2546 และตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2554 มีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นมากกว่า 80 บริษัทและมีพนักงานกว่า 70,000 คน
ปัจจุบันเกรท วอลล์ มอเตอร์ ทำยอดขายได้กว่าหนึ่งล้านคันต่อปี เป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน โดยบุกตลาดภายใต้ 4 แบรนด์หลัก คือ HAVAL, WEY, ORA และ GWM Pickup ซึ่งนอกจากในประเทศจีน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังส่งมอบรถยนต์คุณภาพไปให้กว่า 60 ประเทศและภูมิภาค และมีเครือข่ายในต่างประเทศกว่า 500 แห่งอีกด้วย
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เริ่มเข้ามาลงทุนเพื่อสร้างฐานการผลิตในประเทศไทยเมื่อเดือนก.พ. 2563 โดยประกาศเข้าซื้อโรงงานผลิตรถยนต์เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ที่จ.ระยอง โรงงานแห่งนี้ถือเป็นโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มรูปแบบในต่างประเทศแห่งที่ 3 ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยวางแผนจะเปิดตัวรถยนต์ครั้งแรกในปี 2564 โดยมีปริมาณการผลิตประมาณอย่างต่ำ 80,000 คันต่อปี นอกเหนือจากการตอบสนองความต้องการตลาดภายในประเทศไทยแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีแผนส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้และตลาดอื่นๆอีกด้วย