สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมกับศูนย์การศึกษาและความร่วมมือด้านภาษาระหว่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดย ศาสตราจารย์ ดร.หม่า เจี้ยนเฟย ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาและความร่วมมือด้านภาษาระหว่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมลงนามความร่วมมือเพื่อยกระดับและพัฒนาการอาชีวศึกษาและฝึกอบรมวิชาชีพ และความสามารถทางภาษาจีน โดยมีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ประธานคณะกรรมการสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล ร่วมในพิธีฯ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา
มณฑล ภาคสุวรรณ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เปิดเผยว่า ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้จะมีการจัดตั้ง “สถาบันอาชีวศึกษาไทย–จีน” ซึ่งจะมีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนการสอน การใช้ภาษาและวัฒนธรรมจีน ให้สถานศึกษาในสังกัด ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษา และการวิจัยอย่างมีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการพัฒนากำลังคนเข้าสู่เขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และภูมิภาคอาเซียน เชื่อมโยงการพัฒนาเข้ากับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
ทั้งนี้ ผู้สำเร็จอาชีวศึกษาภายใต้โครงการดังกล่าวจะมีความสามารถในการใช้ภาษาจีนสอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดจนนักศึกษาอาชีวศึกษา ผู้บริหาร ครู และบุคลากรได้เรียนรู้วัฒนธรรม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความเข้าใจและมิตรภาพอันดีของทั้งสองประเทศต่อไป
ด้านสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือ “สมเด็จธงชัย” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ประธานคณะกรรมการสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล กล่าวว่า สถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีนที่กำลังจะเกิดขึ้นในครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นนวัตกรรมความร่วมมือในรูปแบบ “ภาษาจีน+ทักษะวิชาชีพ” ในโลกสมัยใหม่นี้ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาและวิสาหกิจจีน-ไทยร่วมมือการผลิตบุคลากรและการพัฒนานำเทคโนโลยีวิชาชีพสมัยใหม่ตลอดจนการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในวิทยาลัยอาชีวศึกษาไทยให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างโครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของจีน และโครงการ EEC ภายใต้ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของประเทศไทย ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวมีบริษัทของผู้ประกอบการชาวจีนไปลงทุนเป็นจำนวนมากไม่น้อยกว่า 120 บริษัทและประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนสามารถเชื่อมโยงกับทุกประเทศได้อย่างสะดวก
ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.หม่า เจี้ยนเฟย กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ในการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน อยู่ในระหว่างการจัดทำข้อสรุป และหารือร่วมกันในลำดับต่อไป อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการกำลังคน และตอบโจทย์โครงการ EEC พื้นที่ในการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน ก็จะเป็นพื้นที่ในเขต EEC