เมื่อวันพุธที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ถือเป็นวัน “ลี่ชุน” หรือวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ โดยจีนมีคำกล่าวว่า “การทำงานทั้งปีขึ้นอยู่กับการเริ่มต้นที่ดีในฤดูใบไม้ผลิ”

                       ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางไปตรวจเยี่ยมอำเภอเฉียนซีในมณฑลกุ้ยโจวทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ก่อนจะถึงวันตรุษจีน

                       วันตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ และทั่วประเทศจีนมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลที่สำคัญนี้

                       ณ จัตุรัสหมู่บ้านฮัวอู๋ของกลุ่มชาติพันธุ์เมียว (ม้ง) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้พูดคุยกับชาวบ้านที่กำลังทำกิจกรรมเฉลิมฉลอง พร้อมกับอวยพรปีใหม่ให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

• ต้นแบบการบรรเทาความยากจน

                       มณฑลกุ้ยโจว ซึ่งเคยเป็นหน่วยการปกครองท้องถิ่นระดับมณฑลที่มีประชากรยากจนมากที่สุด สามารถดึงประชาชนกว่า 9 ล้านคนให้พ้นจากความยากจนนับตั้งแต่ปี 2555 และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทะลุ 1.78 ล้านล้านหยวน (2.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2563

                       ในช่วงบ่ายวันพุธ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตรวจเยี่ยมอำเภอเฉียนซี ในเมืองปี้เจี๋ย โดยได้เยี่ยมชมสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของแม่น้ำสายย่อยของแม่น้ำอู๋เจียง และเยี่ยมชาวบ้านในหมู่บ้านฮัวอู๋

                       หมู่บ้านฮัวอู๋ เป็นตัวอย่างของความพยายามครั้งใหญ่ในการบรรเทาความยากจนทั่วประเทศ โดยหมู่บ้านแห่งนี้หลุดพ้นจากความยากจนในปี 2562

                       เมืองปี้เจี๋ยตั้งอยู่ในหุบเขาลึกของมณฑลกุ้ยโจว และเคยเป็นเมืองที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางและหน่วยงานในท้องถิ่น เมืองปี้เจี๋ยได้ปรับปรุงที่ดินทำกินเป็นอันดับแรก ด้วยการเปลี่ยนเทือกเขาแห้งแล้งให้เขียวขจี

                       จากนั้นชาวบ้านได้เริ่มพัฒนาการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ และการท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เมืองปี้เจี๋ยเปลี่ยนการสู้รบกับธรรมชาติให้กลายเป็นประโยชน์กับทั้งคนและธรรมชาติ จนสามารถขึ้นมาอยู่เหนือเส้นแบ่งความยากจน

                        ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกขานความสำเร็จของเมืองปี้เจี๋ยว่าเป็น “ต้นแบบการบรรเทาความยากจนของจีน”

• ชัยชนะอันยิ่งใหญ่

                       แม้ว่าจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จีนยังคงประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับความยากจน และบรรรลุเป้าหมายการบรรเทาความยากจนของสหประชาชาติก่อนกำหนดถึง 10 ปี

                       การทำงานอย่างต่อเนื่องตลอด 8 ปี ส่งผลให้จีนประสบความสำเร็จในการดึงผู้ยากไร้ในชนบทเกือบ 100 ล้านคนให้พ้นจากความยากจน

                       นอกจากนี้ จีนได้ทำให้อำเภอที่ยากจนหลุดพ้นจากความยากจนทั้งหมด ตลอดจนขจัดความยากจนขั้นสูงสุด (absolute poverty) และความยากจนระดับภูมิภาค

                       ทั้งนี้ การบรรเทาความยากจนเป็นประเด็นที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้ความสำคัญสูงสุดมาโดยตลอด โดยเขาเน้นย้ำว่า “ต้องไม่มีพื้นที่ยากจนหรือคนยากจนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”

ที่มา: พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์